การเมือง

กองกำลังผสมกะเหรี่ยงคาเรนนีบุกค่ายเมียนมา ปะทะเดือด – ระเบิดบ้านเรือนประชาชน เสียชีวิตหลายราย

วันที่ 17 สิงหาคม 2568 แหล่งข่าวระดับสูงของกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี (Karenni Army, KA) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าประมาณ 08.30 น. กองกำลังผสมของทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี ประกอบด้วย KA, KNDF, KNPLF และ PDF รวมกำลังกว่า 200 นาย บุกโจมตีค่ายทหารเมียนมาในเมืองผาซอง ณ กองพันทหารราบที่ 135 ในค่ายมีทหารเมียนมาหลายกองพันรวมอยู่ ได้แก่ กองพันทหารราบที่ 134, กองพันที่ 1 พล.ร.เบา 66, กองพันทหารราบที่ 14 และกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 531 โดยเกิดการปะทะอย่างหนัก จากการปฏิบัติการ กองกำลังผสมฝ่ายกะเหรี่ยงคาเรนนีสามารถยึดฐานที่มั่นเชิงเขาได้ทั้งหมด เหลือเพียงค่ายหลักบนยอดเขาที่มีบังเกอร์แข็งแรงและรังปืนกลจำนวนมาก ขณะปะทะ ทหารเมียนมาได้ส่งเครื่องบินขับไล่มาทิ้งระเบิด ทำให้ทหารฝ่ายกะเหรี่ยงบาดเจ็บสาหัส 10 นาย และถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ สถานการณ์ที่บ้านหล่อคาโหล่ ป๊อก 16 ต.มอชีว์ […]

อ่านต่อ

เพื่อไทยโต้เดือด ปมคลิปเสียง “10 โล” ซื้อเสียงโหวตงบฯ – ยืนยันไม่จริง ท้าพรรคประชาชนเปิดชื่อพิสูจน์

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาชี้แจงกรณีที่พรรคประชาชนเผยแพร่คลิปเสียงยาว 13 นาที อ้างมีบุคคลปริศนาติดต่อแลกคะแนนเสียงโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ และร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยใช้คำว่า “10 กิโลกรัม” พร้อมโยงไปถึงผู้ใหญ่เหนือรัฐบาลว่าเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา ยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่เป็นความจริง” และเป็นการสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อพรรคเพื่อไทย พร้อมประกาศยินดีให้ตรวจสอบทุกมิติ ขณะเดียวกันได้เรียกร้องให้พรรคประชาชนเปิดเผยชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อให้การตรวจสอบเดินหน้า ไม่ใช่ปล่อยให้สังคมคาใจจนกระทบต่อความเชื่อมั่นทางการเมือง น.ส.ขัตติยา ตั้งคำถามกลับว่า เหตุใดพรรคประชาชนจึงไม่กล้าเปิดเผยข้อเท็จจริง หากยังปล่อยให้เรื่องคลุมเครือ ผลเสียอาจย้อนกลับไปที่พรรคประชาชนเอง เพราะประชาชนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า การกระทำเช่นนี้คือ “การเมืองใหม่” ที่พรรคอ้าง หรือแท้จริงเป็น “การเมืองแบบเก่า” ที่กำลังใช้โจมตีคู่แข่ง พร้อมทั้งย้ำว่า เวลานี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำงานอย่างเป็นเอกภาพ ไม่มีความจำเป็นต้อง “ซื้อเสียง” เพื่อผ่านร่างกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น

อ่านต่อ

นิด้าโพลช็อก! คนไทยกว่า 41.91% “หมดหวัง” กับนักการเมือง ทั้งรัฐบาล-ฝ่ายค้าน

ผลสำรวจล่าสุดจาก นิด้าโพล เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า ประชาชนกว่า 41.91% รู้สึก “หมดหวัง” กับพรรคการเมืองที่มีอยู่ในสภา ทั้งฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้าน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงอย่างน่ากังวลต่อการทำงานของนักการเมืองในปัจจุบัน ผลสำรวจในหัวข้อ “มีความหวังหรือหมดหวังกับพรรคการเมือง” ที่เผยแพร่วันที่ 17 สิงหาคม 2568 ชี้ให้เห็นถึงความไม่พอใจของประชาชนอย่างชัดเจน โดยพบว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจ: ไม่ได้เพิ่งเกิด! ความสิ้นหวังที่สะสมมานาน ความรู้สึกหมดหวังนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นผลพวงจากเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีตที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน: นอกจากนี้ ผลสำรวจก่อนหน้านี้ของนิด้าโพลยังเคยสะท้อนถึงความไม่พอใจต่อรัฐบาลและความเชื่อมั่นที่ลดลง โดยมีตัวเลขความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาลสูงถึง 54.58% ในช่วงที่มีความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นสัญญาณที่สอดคล้องกับผลสำรวจล่าสุดนี้ ตัวเลขความหมดหวัง 41.91% นี้จึงเป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนกำลังต้องการการเปลี่ยนแปลงและนักการเมืองที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาของประเทศอย่างแท้จริง. อ่านข่าวอื่น ๆ :

อ่านต่อ

บทเรียนจากการเชิญผิดคน เมื่อโฆษกรัฐบาลเปิดช่องให้กัมพูชาปั้นภาพเหนือไทย

การเมืองระหว่างประเทศไม่ใช่เวทีทดลองความซื่อ แต่คือสนามที่ต้องการ “มืออาชีพ” และสายตาที่แหลมคมพอจะแยกแยะว่าใครคือ “ผู้เล่น” และใครเป็นเพียง “ตัวประกอบ” ที่ถูกจัดฉากมาให้สร้างภาพ กรณีที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาลไทย เทียบเชิญ ไมเคิล อัลฟาโร ให้ข้ามแดนมาทำข่าวชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า รัฐบาลไทยจะ “ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ฟรี” กลายเป็นประเด็นที่ไม่เพียงสะท้อน “ความใจใหญ่” หากแต่ยังสะท้อน “ความสะเพร่าทางการเมือง” อย่างน่าเจ็บใจ เพราะเมื่อถูกตรวจสอบย้อนกลับ ความจริงก็โผล่ชัดว่า ไมเคิล ไม่ใช่นักข่าวทำเนียบขาวตามที่กัมพูชาปั้นแต่ง แต่เป็นเพียง “ล็อบบี้ยิสต์” ที่ถูกอีกฝ่ายใช้สร้างภาพทางการเมืองเพื่อเสริมความชอบธรรมให้ตนเอง และล่าสุด ไมเคิลก็หันมาตอบรับคำเชิญรัฐบาลไทยทันทีเล่นบทนักข่าวผู้ใฝ่หาความจริงเสียเต็มยศ ทำไมเรื่องนี้ถึงน่าอาย? แทนที่จะใช้ช่องทางทางการทูตและกลไกระหว่างประเทศที่มีอยู่ กลับเลือกใช้ “บุคคลปริศนา” ที่โปรไฟล์คลุมเครือ มาสวมบทสื่อกลางสร้างความน่าเชื่อถือให้กับไทย การออกค่าใช้จ่ายให้หมดทุกประการ ไม่ต่างอะไรกับยอมรับเขาเป็น “ผู้สังเกตการณ์พิเศษ” อย่างเป็นทางการ ทั้งที่ไม่มีใครตรวจสอบได้ว่าเขามีความเป็นกลางหรือไม่ แทนที่จะเสริมความแข็งแรงให้จุดยืนของไทย กลับทำให้ถูกมองว่าอ่อนหัด ไม่กลั่นกรอง และพร้อมจะเชื้อเชิญใครก็ได้ที่อีกฝ่ายปั้นแต่งมา ผลเสียที่จะตามมา ระยะสั้น ไทยถูกตั้งคำถามจากสื่อสากลว่า ทำไมรัฐบาลจึงเชิญบุคคลที่ไม่มีสถานะจริงทางสื่อมาเป็น “ผู้ค้นหาความจริง” ระยะกลาง ความน่าเชื่อถือของโฆษกรัฐบาลถูกกัดเซาะ […]

อ่านต่อ

กัมพูชาปฏิเสธวิดีโอกองทัพไทย ชี้ “จัดฉากโยนความผิด” ปมกล่าวหาลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ชายแดน

ขแมร์ไทม์ สื่อกัมพูชารายงานว่า โฆษกองค์การปฏิบัติการทุ่นระเบิดและการช่วยเหลือเหยื่อกัมพูชา (CMAA) ออกโรงปฏิเสธวิดีโอที่กองทัพไทยเผยแพร่ ซึ่งกล่าวหาทหารกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ตามแนวชายแดน โดยระบุชัด “เป็นการจัดฉาก” และมีเจตนากล่าวโทษกัมพูชา นายลอง โกสล โฆษก CMAA ย้ำว่า “กัมพูชาไม่ได้วางและจะไม่วางทุ่นระเบิดใหม่” เพราะเป็นภาคีของสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) พร้อมระบุว่า วิดีโอดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงและทำลายความน่าเชื่อถือของกองกำลังกัมพูชา รายงานระบุด้วยว่า ผู้สังเกตการณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อหลายรายชี้ถึงความไม่สมจริงของวิดีโอ อาทิ สภาพการถ่ายทำที่ขาดความสมจริง การปฏิบัติการไม่เหมือนทหารจริง และวัตถุที่ถูกอ้างว่าเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 แต่กลับดูแตกต่างออกไป อีกทั้งยังมีเสียงในพื้นหลังพูดว่า “ทำให้มันดูสมจริง” ยิ่งตอกย้ำข้อสงสัยว่าเป็นการจัดฉาก ทั้งนี้ ขแมร์ไทม์ยังยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตที่เคยมีการจัดฉากลักษณะคล้ายกัน โดยใช้เครื่องแบบทหารกัมพูชาที่หาซื้อได้ทั่วไปในฝั่งไทย ก่อนนำไปสร้างภาพและเผยแพร่เป็น “หลักฐานเท็จ” โยงว่ากัมพูชาอยู่เบื้องหลัง CMAA ย้ำปฏิเสธหนักแน่น เรียกข้อกล่าวหาครั้งนี้ว่า “ไร้หลักฐาน” และสะท้อนว่า วิดีโอที่เผยแพร่เป็นเพียง “การจัดฉากทางการเมือง” มากกว่าจะเป็นหลักฐานจริงจากภาคสนาม

อ่านต่อ

“จิรายุ” ใจกว้าง! ส่งเทียบเชิญ “ไมเคิล” มาทัวร์ไทยฟรี จัดให้ไลฟ์สดกลางทุ่งกับระเบิด

‘จิรายุ’ส่งเทียบเชิญ‘ไมเคิล’บินมาไทยฟรี อยากไปไหนจัดให้ได้หมดหลังไลฟ์สดกล่าวหาไทยด้วยถ้อยคำหยาบคาย บอกยินดีพาไปไลฟ์สดใน‘ทุ่งกับระเบิด’พร้อมพาชมโรงพยาบาล-โรงเรียน รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน และปั๊มน้ำมันที่ถูกเขมรถล่ม ให้เห็นอีกมุมที่เป็นของจริง ไม่มโนเหมือนเขมร 16 สิงหาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย– กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวถึงกรณีสำนักข่าวของกัมพูชาอ้างอิงการรายงานข่าวของนายไมเคิล อัลฟาโร ชาวสหรัฐฯ ที่ไปไลฟ์สด ชายแดนกัมพูชา -ไทย ด้วยการเซ็ตฉากและกล่าวอ้างว่าตนเองเป็นสื่อมวลชนทำเนียบขาวของประเทศสหรัฐอเมริกาและกล่าวหาประเทศไทย ด้วยถ้อยคำหยาบคายและใส่ร้ายป้ายสีไทยด้านเดียวด้วยการไลฟ์สดและทำคลิปวิดีโอแชร์ในโซเชียลมีเดียทำให้คนกัมพูชาหลงเชื่อแชร์ต่อกันจำนวนมาก แต่ต่อมา นายไมเคิล ได้ลบคลิปวีดีโอทิ้งแล้วนั้นว่า ตนได้รับการยืนยันจาก สื่อมวลชนในสหรัฐฯ ว่านายไมเคิล ไม่ใช่ผู้ประกาศข่าวทางการของทำเนียบขาว และไม่ปรากฎชัดเจนว่าเขาอยู่กับองค์กรข่าวใด อีกทั้งจากการสืบค้นและสอบถามข้อมูล พบว่าข่าวที่นายไมเคิล รายงานในชายแดนกัมพูชานั้น เป็นการได้รับการเชิญ จากนายซอนโซเพียบ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทพีอาร์ ให้กับรัฐบาลกัมพูชา โดยเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายทุกดอลลาร์ตลอดทริป นายจิรายุ กล่าวว่ามีหลักฐานปรากฏว่าผู้บริหารบริษัทนี้ เป็นผู้จ่ายค่าเดินทางและไปรับที่สนามบินดูแลที่พัก อาหารการกินให้ทุกอย่าง พร้อมทั้งเซ็ตฉากให้นายไมเคิลไปทำคลิปไลฟ์สดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขัดต่อข้อตกลง GBC ที่ระบุว่าจะไม่ปล่อยข่าวโกหกหรือเฟคนิวส์ นายจิรายุ กล่าวว่า ตนขอเชิญนายไมเคิล ให้เดินทางมาที่ประเทศไทย ตนจะออกค่าใช้จ่ายค่าเครื่องบินค่าโรงแรมให้เลย รวมถึงค่าเดินทาง อาหารการกินต่างๆ […]

อ่านต่อ

กัมพูชา ฟ้องยูเอ็น – อาเซียน ตรวจสอบไทยบุกรุกชายแดน พร้อมเรียกร้องปล่อยตัวทหาร 18 นายทันที

สื่อกัมพูชา Phnom Penh Post รายงานว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ได้ส่งหนังสือถึง สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR), ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิในที่อยู่อาศัยของสหประชาชาติ และ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนอาเซียน (AICHR) เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของกองทัพไทยที่อ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและข้อตกลงหยุดยิงชายแดน จดหมายทั้ง 3 ฉบับระบุว่า การกระทำของไทยถือเป็น “การละเมิดกฎหมายและสร้างความกังวลอย่างยิ่ง” หลังจากที่ไทย–กัมพูชาตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และลงนามข้อตกลง 13 ข้อจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมสมัยวิสามัญ (GBC) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม CHRC ระบุว่า วันที่ 4 สิงหาคม ทหารไทยบุกรุกพื้นที่อานเซ หรือ ช่องอานม้า อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร เพื่อติดตั้งลวดหนามและปรับพื้นที่ต่อด้วยเครื่องจักรต่อมา วันที่ 12–13 สิงหาคม กองกำลังทหารพรานและตำรวจตระเวนชายแดนไทย เข้าปฏิบัติการในอำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ติดตั้งลวดหนาม วางยางรถยนต์เป็นเครื่องกีดขวาง และปิดล้อมบ้านเรือนและที่ดินของประชาชน และ วันที่ 14 สิงหาคม ไทยยังมีแผนดำเนินการในจุดผ่อนปรนชายแดนบึงตะกวน […]

อ่านต่อ

ICRC ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา สำรวจผลกระทบไทยจากเหตุถูกโจมตีจากกัมพูชา

เมื่อวันที่ 11–14 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา กองทัพบกร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ในภารกิจลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูลความเสียหายของพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของทหารกัมพูชา โดยมีส่วนราชการจังหวัดเป็นผู้ให้ข้อมูลและประสานงานในการลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย รวมถึงการเข้าสัมภาษณ์ประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงของคณะฯ ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์, อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี สำหรับวิธีการปฏิบัติของ ICRC จะมีขั้นตอนตามหลักสากล ซึ่งดำรงไว้ซึ่งความเป็นกลาง ไม่ได้ตัดสินถึงความ “ถูก–ผิด” ในการสู้รบของแต่ละฝ่าย โดยเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จะเข้ารวบรวมข้อมูลในพื้นที่โดยตรง และสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แบบส่วนตัว เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ตามอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 ว่าด้วยการคุ้มครองและบรรเทาทุกข์แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เจ็บป่วย บุคลากรทางการแพทย์/สาธารณสุข และผู้นำทางศาสนา จากนั้นจะนำข้อมูลดังกล่าวรายงานให้กับหัวหน้าส่วนราชการของทั้งสองประเทศโดยตรง เพื่อให้รับทราบข้อมูลที่เกิดขึ้น โดยจะไม่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทั้งนี้เป็นขั้นตอนตามมาตรฐานสากลที่ ICRC ยึดถือปฏิบัติเสมอมา สำหรับบรรยากาศโดยรวมตลอดการดำเนินการ เห็นภาพของความร่วมมือระหว่างกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และคณะ ICRC ในการขับเคลื่อนกลไกด้านมนุษยธรรมสากล ซึ่งทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องว่าต้องมีการปฏิบัติตามหลักสากลอย่างเคร่งครัด Cr. ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก […]

อ่านต่อ

8 ส.ส.งูเห่าฝ่ายค้านโหวตหนุน! ดันงบฯ 69 ผ่าน 257 ต่อ 230 รัฐบาลไร้แตกแถว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โหวตผ่านวาระ 3 ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ด้วยคะแนน 257 ต่อ 230 งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง ไม่มี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น จากการตรวจสอบพบว่า เสียงเห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นของพรรคร่วมรัฐบาล ภายใต้เสียงที่ปริ่มน้ำนั้น โดยพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงมติปกติ แม้กระทั่งนายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ก็ลงมติเห็นด้วย ขณะที่นายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขณะนั้น งดออกเสียง ส่วนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ ไม่พบการลงมติใดๆ ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลงมติเห็นด้วย มีเพียงนางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี ที่ไม่พบการลงมติใด ส่วนพรรคกล้าธรรม (กธ.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) […]

อ่านต่อ

ปริศนานักข่าวรับจ้างชายแดนไทย – กัมพูชา ถูกจับตา ปมรายงานบิดเบือน – จัดฉากใส่ร้ายไทย

วันที่ 15 ส.ค. เมื่อเวลา 19.40 น. เฟซบุ๊กเพจ Army Military Force โพสต์ข้อความว่า มีรายงานล่าสุดว่า เมื่อ 18.20 น. ของเย็นวันนี้ (15 สค.) นายไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro) นักข่าวรับจ้างล็อบบี้ยิสต์ ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ชายแดนที่จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว (ตามคำเชิญของกัมพูชา) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปิดกั้นด้วยรั้วลวดหนามและยางรถยนต์โดยทหารไทย และอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบันทายมีชัยของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเยี่ยมชม ฝ่ายทหารกัมพูชาได้กล่าวเท็จกับนักข่าวรายนี้ว่า ทหารไทยได้รุกล้ำดินแดนและกีดกันไม่ให้ชาวกัมพูชาเดินทางเข้าออกบ้านเรือนและหมู่บ้านของตน จากที่เคยเดินทางอย่างสะดวก นอกจากนี้ ทหารกัมพูชายังเกณฑ์เด็กและชาวบ้านออกมาต้อนรับเพื่อจัดฉากแสดงละครบีบน้ำตา เรียกความสงสาร พร้อมกล่าวหาว่าทหารไทยรังแกชาวบ้านด้วยการปิดทางเข้าหมู่บ้าน และมีความต้องการที่จะยึดดินแดนของกัมพูชา ในขณะที่ข้อเท็จจริงระบุว่า บ้านเรือนหลายหลังของชาวกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าวได้ถูกสร้างขึ้นในลักษณะรุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในพื้นที่ช่องอานม้า นอกจากนี้ นายไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro) ได้ไลฟ์สดที่บริเวณหน้ารั้วลวดหนามหีบเพลงและยางรถยนต์ที่ขึงโดยทหารไทย ณ จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว (ตามคำเชิญของกัมพูชา) ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่บนดินแดนอธิปไตยของประเทศไทย และตั้งอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบันทายมีชัยของกัมพูชา เพจArmy Military […]

อ่านต่อ