สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

เกมรุกการทูต! ไทย-กัมพูชา ขัดแย้งชายแดนเดือด: ประชามติไทย VS ICJ กัมพูชา

วิกฤตชายแดนเดือด: ประชามติไทย VS ICJ กัมพูชา สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้พุ่งสู่จุดเดือดอีกครั้งในช่วงปลายเดือนกันยายน 2568 โดยไม่ใช่แค่การปะทะทางทหาร แต่กลายเป็นการเปิดศึก “เกมการทูต” และ “สงครามข่าวสาร” ในเวทีโลก โดยมีชนวนหลักคือข้อพิพาทเรื่องการตีเส้นพรมแดนที่ยืดเยื้อมานาน แกนหลักของวิกฤตล่าสุดคือ การตัดสินใจครั้งใหญ่ของรัฐบาลไทยที่ต้องการใช้ “ประชามติ” มาเป็นข้อยุติทางการเมือง รัฐบาลไทยประกาศเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ว่าจะเสนอให้มีการทำ ประชามติแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศตัดสินใจว่าจะ ยกเลิกข้อตกลงตีเส้นพรมแดนปี 2000/2001 กับกัมพูชาหรือไม่ การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของสาธารณชนในการ ยืนยันอำนาจอธิปไตย และยุติปัญหาข้อตกลงเขตแดนที่หลายฝ่ายมองว่าไม่เป็นธรรม มุมมองสองฝ่ายในสมรภูมิโลก นานาชาติเรียกร้อง “ยับยั้งชั่งใจ” องค์กรระหว่างประเทศและประเทศในภูมิภาค อาทิ อาเซียน สหประชาชาติ และมหาอำนาจต่าง ๆ เรียกร้องให้ทั้งสองประเทศ ใช้ความอดกลั้นสูงสุด และเร่งดำเนินการเจรจาทางการทูตและใช้กลไกไกล่เกลี่ย เพื่อรักษาเสถียรภาพของภูมิภาคไว้ ความตึงเครียดนี้จึงเป็นประเด็นที่นานาชาติจับตามองอย่างใกล้ชิด. อ่านข่าวอื่น ๆ :

อ่านต่อ

AP ชี้ไทยใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาในการปะทะกับผู้ประท้วงชาวกัมพูชาบริเวณชายแดน

พนมเปญ, กัมพูชา (AP) – ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยปะทะกับผู้ประท้วงจากกัมพูชาในวันพุธที่ผ่านมาในพื้นที่ชายแดนพิพาท ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางที่ตกลงกันไว้ในเดือนกรกฎาคม หลังจากเกิดการสู้รบด้วยอาวุธเป็นเวลาห้าวัน แถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากกัมพูชาระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 28 คนตลอดช่วงเวลาหลายชั่วโมงใกล้กับบริเวณที่พวกเขาเรียกว่า หมู่บ้านเปรย จัน ใน จังหวัดบันทายมีชัย ในขณะที่ทางการไทยเรียกพื้นที่เดียวกันนี้ว่า บ้านหนองหญ้าแก้ว ใน จังหวัดสระแก้ว ของประเทศไทย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยใช้อาวุธที่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต ขณะที่ผู้ประท้วงชาวกัมพูชา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นพลเรือน ได้ขว้างปาก้อนหินและวัตถุอื่น ๆ พลตรีวินทัย สุวารี โฆษกกองทัพบกไทย อธิบายสถานการณ์ว่า เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของไทย ขัดขวางการปฏิบัติงาน และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ เขากล่าวว่าทางการไทยมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการยั่วยุและเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยเจตนา เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ทั้งสองประเทศได้สู้รบกันเป็นเวลาห้าวัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนและมีผู้พลัดถิ่นกว่า 260,000 คน ทั้งสองประเทศตกลงที่จะหยุดยิงได้หลังจากได้รับคำไกล่เกลี่ยจาก นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย และแรงกดดันจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ขู่ว่าจะระงับสิทธิพิเศษทางการค้า เว้นแต่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงหยุดยิง ความตึงเครียดยังคงอยู่ในระดับสูงหลังจากการหยุดยิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดในขณะลาดตระเวนในพื้นที่ห่างไกลระหว่างสองประเทศ ฝ่ายไทยกล่าวหาว่ากับระเบิดเหล่านี้เป็นของที่เพิ่งถูกวางขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง แต่กัมพูชาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างหนักแน่น แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชาที่ออกเมื่อวันพุธกล่าวว่า […]

อ่านต่อ

คนไทยมีเฮ! WHO ชี้ชัด กองทัพกัมพูชาโจมตีโรงพยาบาลไทย 5 ครั้ง ใช้อาวุธหนักถล่มกลางศึกชายแดน ละเมิดอนุสัญญาเจนีวา

จากกรณีสถานพยาบาลของไทยถูกกองทัพกัมพูชาโจมตี ทำให้ได้รับความเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บ จากการสู้รบเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรง ล่าสุดพบว่าในเว็บไซต์ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ลงข้อมูลในระบบเฝ้าระวังการโจมตีด้านการดูแลสุขภาพ โดยสถานพยาบาลของประเทศไทยถูกโจมตีในวันที่ 24 กรกฏาคม 2568 จำนวน 5 ครั้ง ด้วยความรุนแรงจากอาวุธหนักที่ไม่สามารถดำเนินการได้โดยคน ๆ เดียว เช่น อาวุธปืน รถถัง ขีปนาวุธ ระเบิด ปืนครก ขณะที่ทรัพยากรด้านสุขภาพที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ สถานพยาบาล ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ คลังสินค้าห้องเก็บของทางการแพทย์ สำหรับสถานพยาบาลของไทยที่ถูกทหารกัมพูชาโจมตีจนได้รับความเสียหาย จากข้อมูลมีดังนี้ ที่มาข้อมูล : Top News อ่านข่าวอื่น ๆ :

อ่านต่อ

แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำ! ชายแดนไทย–กัมพูชายังตึงเครียด 50-50 ยังไว้ใจกัมพูชาไม่ได้

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง  “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฎิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน จึงต้องขอบคุณทุกท่านที่สอบถามไปยังหน่วย “ช่วงนี้สถานการณ์ยัง 50-50 ตามภาพข่าว ประเทศกัมพูชา ก็เป็นไปตามที่เราเข้าใจ ไม่มีอะไรที่เราไว้ใจได้ ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 2 โดย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีความห่วงใยได้ลงไปตรวจเยี่ยม เป็นประจำ […]

อ่านต่อ

อาเซียน 8 ชาติลงพื้นที่ชายแดนไทย ตรวจสอบการละเมิดหยุดยิงของกัมพูชา

18–20 สิงหาคม 2568 – ชายแดนไทย–กัมพูชา กองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมข่าวทหาร นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวม 14 นาย ลงพื้นที่ชายแดนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและกฎหมายมนุษยธรรม คณะนำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพื้นที่ เริ่มจาก ห้องประชุมศรีจันทราพันธุ์ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี รับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับการละเมิดหยุดยิงของกัมพูชาและการขัดขวางปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ คณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่สำคัญตลอดแนวชายแดน ได้แก่ การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้รับ ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงไปตรงมา อีกทั้งสะท้อนพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนและประชาชนผู้บริสุทธิ์ กองทัพไทยยืนยันว่า ประเทศไทยยังคง รักษาข้อตกลงหยุดยิง ปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมสากล และแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี แต่จะไม่ยอมให้มีการละเมิดบูรณภาพดินแดนและความปลอดภัยของประชาชนโดยเด็ดขาด อ่านข่าวอื่น ๆ :

อ่านต่อ

IOT ลงพื้นที่ช่องอานม้า ทหารกัมพูชาป่วนโวยวาย จำกัดพื้นที่ผู้สังเกตการณ์

อุบลราชธานี – 19 ส.ค.2568 คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ลงพื้นที่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบกรณีการรุกตัดลวดหนามของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง คณะ IOT ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จาก บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวม 14 นาย โดยมี พล.ต.ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นหัวหน้าคณะ เมื่อคณะเดินทางถึง ทหารกัมพูชานายหนึ่งออกมาควบคุมสถานการณ์เสียงดังโวยวาย ไม่ยอมให้ทหารไทยพาคณะเข้าพื้นที่เต็มรูปแบบ อ้างว่ามาคนเยอะเกินไป จึงจำกัดให้ เฉพาะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวเข้าไปบริเวณอนุสาวรีย์ตาอม ส่วนผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ต้องอยู่บริเวณร้านค้าเท่านั้น ทหารกัมพูชานายนี้ยังพยายามสร้างสถานการณ์ ขณะคณะผู้สังเกตการณ์และสื่อมวลชนเข้าพื้นที่ โดยตลอดเวลาย้ำเรื่องอธิปไตยของกัมพูชา แต่คณะ IOT ยังคงมุ่งเน้น ตรวจสอบสภาพพื้นที่และรับฟังบรรยายสรุปจากทหารไทย คณะใช้เวลาตรวจสอบพื้นที่เกือบ 1 […]

อ่านต่อ

กัมพูชาปฏิเสธวิดีโอกองทัพไทย ชี้ “จัดฉากโยนความผิด” ปมกล่าวหาลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ชายแดน

ขแมร์ไทม์ สื่อกัมพูชารายงานว่า โฆษกองค์การปฏิบัติการทุ่นระเบิดและการช่วยเหลือเหยื่อกัมพูชา (CMAA) ออกโรงปฏิเสธวิดีโอที่กองทัพไทยเผยแพร่ ซึ่งกล่าวหาทหารกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ตามแนวชายแดน โดยระบุชัด “เป็นการจัดฉาก” และมีเจตนากล่าวโทษกัมพูชา นายลอง โกสล โฆษก CMAA ย้ำว่า “กัมพูชาไม่ได้วางและจะไม่วางทุ่นระเบิดใหม่” เพราะเป็นภาคีของสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) พร้อมระบุว่า วิดีโอดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงและทำลายความน่าเชื่อถือของกองกำลังกัมพูชา รายงานระบุด้วยว่า ผู้สังเกตการณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อหลายรายชี้ถึงความไม่สมจริงของวิดีโอ อาทิ สภาพการถ่ายทำที่ขาดความสมจริง การปฏิบัติการไม่เหมือนทหารจริง และวัตถุที่ถูกอ้างว่าเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 แต่กลับดูแตกต่างออกไป อีกทั้งยังมีเสียงในพื้นหลังพูดว่า “ทำให้มันดูสมจริง” ยิ่งตอกย้ำข้อสงสัยว่าเป็นการจัดฉาก ทั้งนี้ ขแมร์ไทม์ยังยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตที่เคยมีการจัดฉากลักษณะคล้ายกัน โดยใช้เครื่องแบบทหารกัมพูชาที่หาซื้อได้ทั่วไปในฝั่งไทย ก่อนนำไปสร้างภาพและเผยแพร่เป็น “หลักฐานเท็จ” โยงว่ากัมพูชาอยู่เบื้องหลัง CMAA ย้ำปฏิเสธหนักแน่น เรียกข้อกล่าวหาครั้งนี้ว่า “ไร้หลักฐาน” และสะท้อนว่า วิดีโอที่เผยแพร่เป็นเพียง “การจัดฉากทางการเมือง” มากกว่าจะเป็นหลักฐานจริงจากภาคสนาม. อ่านข่าวอื่น ๆ :

อ่านต่อ

กัมพูชา ฟ้องยูเอ็น – อาเซียน ตรวจสอบไทยบุกรุกชายแดน พร้อมเรียกร้องปล่อยตัวทหาร 18 นายทันที

สื่อกัมพูชา Phnom Penh Post รายงานว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ได้ส่งหนังสือถึง สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR), ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิในที่อยู่อาศัยของสหประชาชาติ และ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนอาเซียน (AICHR) เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของกองทัพไทยที่อ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและข้อตกลงหยุดยิงชายแดน จดหมายทั้ง 3 ฉบับระบุว่า การกระทำของไทยถือเป็น “การละเมิดกฎหมายและสร้างความกังวลอย่างยิ่ง” หลังจากที่ไทย–กัมพูชาตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และลงนามข้อตกลง 13 ข้อจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมสมัยวิสามัญ (GBC) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม CHRC ระบุว่า วันที่ 4 สิงหาคม ทหารไทยบุกรุกพื้นที่อานเซ หรือ ช่องอานม้า อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร เพื่อติดตั้งลวดหนามและปรับพื้นที่ต่อด้วยเครื่องจักรต่อมา วันที่ 12–13 สิงหาคม กองกำลังทหารพรานและตำรวจตระเวนชายแดนไทย เข้าปฏิบัติการในอำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ติดตั้งลวดหนาม วางยางรถยนต์เป็นเครื่องกีดขวาง และปิดล้อมบ้านเรือนและที่ดินของประชาชน และ วันที่ 14 สิงหาคม ไทยยังมีแผนดำเนินการในจุดผ่อนปรนชายแดนบึงตะกวน […]

อ่านต่อ

ICRC ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา สำรวจผลกระทบไทยจากเหตุถูกโจมตีจากกัมพูชา

เมื่อวันที่ 11–14 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา กองทัพบกร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ในภารกิจลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูลความเสียหายของพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของทหารกัมพูชา โดยมีส่วนราชการจังหวัดเป็นผู้ให้ข้อมูลและประสานงานในการลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย รวมถึงการเข้าสัมภาษณ์ประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงของคณะฯ ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์, อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี สำหรับวิธีการปฏิบัติของ ICRC จะมีขั้นตอนตามหลักสากล ซึ่งดำรงไว้ซึ่งความเป็นกลาง ไม่ได้ตัดสินถึงความ “ถูก–ผิด” ในการสู้รบของแต่ละฝ่าย โดยเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จะเข้ารวบรวมข้อมูลในพื้นที่โดยตรง และสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แบบส่วนตัว เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ตามอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 ว่าด้วยการคุ้มครองและบรรเทาทุกข์แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เจ็บป่วย บุคลากรทางการแพทย์/สาธารณสุข และผู้นำทางศาสนา จากนั้นจะนำข้อมูลดังกล่าวรายงานให้กับหัวหน้าส่วนราชการของทั้งสองประเทศโดยตรง เพื่อให้รับทราบข้อมูลที่เกิดขึ้น โดยจะไม่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทั้งนี้เป็นขั้นตอนตามมาตรฐานสากลที่ ICRC ยึดถือปฏิบัติเสมอมา สำหรับบรรยากาศโดยรวมตลอดการดำเนินการ เห็นภาพของความร่วมมือระหว่างกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และคณะ ICRC ในการขับเคลื่อนกลไกด้านมนุษยธรรมสากล ซึ่งทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องว่าต้องมีการปฏิบัติตามหลักสากลอย่างเคร่งครัด Cr. ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก […]

อ่านต่อ

ปริศนานักข่าวรับจ้างชายแดนไทย – กัมพูชา ถูกจับตา ปมรายงานบิดเบือน – จัดฉากใส่ร้ายไทย

วันที่ 15 ส.ค. เมื่อเวลา 19.40 น. เฟซบุ๊กเพจ Army Military Force โพสต์ข้อความว่า มีรายงานล่าสุดว่า เมื่อ 18.20 น. ของเย็นวันนี้ (15 สค.) นายไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro) นักข่าวรับจ้างล็อบบี้ยิสต์ ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ชายแดนที่จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว (ตามคำเชิญของกัมพูชา) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปิดกั้นด้วยรั้วลวดหนามและยางรถยนต์โดยทหารไทย และอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบันทายมีชัยของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเยี่ยมชม ฝ่ายทหารกัมพูชาได้กล่าวเท็จกับนักข่าวรายนี้ว่า ทหารไทยได้รุกล้ำดินแดนและกีดกันไม่ให้ชาวกัมพูชาเดินทางเข้าออกบ้านเรือนและหมู่บ้านของตน จากที่เคยเดินทางอย่างสะดวก นอกจากนี้ ทหารกัมพูชายังเกณฑ์เด็กและชาวบ้านออกมาต้อนรับเพื่อจัดฉากแสดงละครบีบน้ำตา เรียกความสงสาร พร้อมกล่าวหาว่าทหารไทยรังแกชาวบ้านด้วยการปิดทางเข้าหมู่บ้าน และมีความต้องการที่จะยึดดินแดนของกัมพูชา ในขณะที่ข้อเท็จจริงระบุว่า บ้านเรือนหลายหลังของชาวกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าวได้ถูกสร้างขึ้นในลักษณะรุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในพื้นที่ช่องอานม้า นอกจากนี้ นายไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro) ได้ไลฟ์สดที่บริเวณหน้ารั้วลวดหนามหีบเพลงและยางรถยนต์ที่ขึงโดยทหารไทย ณ จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว (ตามคำเชิญของกัมพูชา) ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่บนดินแดนอธิปไตยของประเทศไทย และตั้งอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบันทายมีชัยของกัมพูชา เพจArmy Military […]

อ่านต่อ