เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เมื่อรัฐสภาเข้าสู่การพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยมีประเด็นหลักอยู่ที่การจัดตั้ง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนฉบับปี 2560 ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่แค่เรื่องทางเทคนิคทางกฎหมาย แต่คือการเมืองที่มีเดิมพันสูงในการจัดวางความสัมพันธ์ทางอำนาจ และกำหนดทิศทางประชาธิปไตยของประเทศ บทความนี้จะวิเคราะห์ความซับซ้อนของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในห้วงเวลานี้ ทั้งในมิติของกระบวนการ โครงสร้าง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพทางการเมือง

มิติทางวิชาการ: ความชอบธรรมของกระบวนการ
การเรียกร้องให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่าน ส.ส.ร. มีรากฐานจากความเชื่อที่ว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย เนื่องจากถูกร่างขึ้นภายใต้บริบทของคณะรัฐประหาร การมี ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด หรือส่วนใหญ่ จึงถูกมองว่าเป็นหนทางในการ “คืนอำนาจสถาปนา” (Constituent Power) ให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถูกเสนอมีรายละเอียดการได้มาของ ส.ส.ร. ที่แตกต่างกันไป อาทิ ร่างของพรรคเพื่อไทยที่เสนอให้มี ส.ส.ร. จำนวน 151 คน โดย 100 คนมาจากการเลือกตั้งระดับจังหวัด และ 51 คนมาจากการคัดเลือกโดยรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี (ครม.) (แหล่งอ้างอิง: สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก, 15 ต.ค. 2568) ในทางวิชาการ ร่างที่มีสัดส่วน ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในสัดส่วนที่สูงกว่า ย่อมมีแนวโน้มที่จะได้รับความชอบธรรม (Legitimacy) และการยอมรับจากสาธารณะมากกว่า
ด่านสำคัญ : อำนาจชี้ขาดของสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
เงื่อนไขทางกฎหมายตามรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้การแก้ไขเพิ่มเติมต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา โดยในวาระที่ 1 และวาระที่ 3 ต้องใช้เสียงเห็นชอบจาก ส.ส.ร. อย่างน้อย 1 ใน 3 ของจำนวน สว. ที่มีอยู่ หรือประมาณ 82 เสียง (ถ้ามี สว. 250 คน) (แหล่งอ้างอิง: มาตรา 256 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560)
ข้อมูลเชิงสถิติที่สำคัญ:
- จำนวน สว. ที่ต้องการ: 82 เสียง (จาก 250 เสียง)
- องค์ประกอบ สว. ชุดปัจจุบัน: ส่วนใหญ่มาจากการสรรหาตามกลไกที่ถูกวางไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาลทหาร ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสงวนท่าทีต่อการเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบต่อโครงสร้างอำนาจเดิม
การโหวตของ สว. จึงเป็น จุดชี้ขาด ที่ทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความไม่แน่นอนสูง มีการวิเคราะห์ว่า สว. อาจมีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วยกับร่างที่ให้อำนาจ ส.ส.ร. ในการแก้ไข “หมวด 1 และหมวด 2” หรือหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ หรือร่างที่ตัดอำนาจขององค์กรอิสระที่มาจากการแต่งตั้งของกลไกรัฐบาลเดิม การลงมติในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 จึงไม่ใช่แค่การลงคะแนน แต่เป็นการแสดงจุดยืนว่า สว. ชุดปัจจุบันจะเปิดทางให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจ หรือจะรักษา “สถานะเดิม” (Status Quo) ไว้
ผลกระทบเชิงวิเคราะห์: ทางแยกทางการเมือง
- หากร่างแก้ไขผ่าน: การเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร. จะถือเป็นชัยชนะสำคัญของฝ่ายที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง แต่กระบวนการยังต้องใช้เวลาอีกนาน (อาจเป็นปี) ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐบาลปัจจุบันต้องแบ่งทรัพยากรและความสนใจไปกับการผลักดันกระบวนการรัฐธรรมนูญ แทนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วน การเมืองจะเข้าสู่โหมด “การร่างกติกาใหม่” ซึ่งจะมีความตื่นตัวสูง
- หากร่างแก้ไขไม่ผ่าน: จะเกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรงในหมู่ประชาชนและพรรคการเมืองที่ผลักดันการแก้ไข การเมืองอาจกลับเข้าสู่วงจรความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากประชาชนมองว่า “ทางออก” ที่เป็นไปตามกลไกถูกปิดกั้น อาจนำไปสู่การประท้วงและการเรียกร้องนอกระบบรัฐสภา ซึ่งเคยเป็นปัจจัยหลักของ “วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2568” (แหล่งอ้างอิง: วิกิพีเดีย) สถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานักลงทุนต่างชาติ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับ TopicThailand
ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความผันผวนนี้ TopicThailand ควรให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลเชิงวิเคราะห์อย่างรอบด้าน โดยเน้นการแยกแยะระหว่าง “ข้อเท็จจริงทางกฎหมาย” (เช่น จำนวนเสียงที่ต้องการ) และ “การคาดการณ์ทางการเมือง” (เช่น ท่าทีของ สว.) เพื่อให้ผู้อ่านสามารถสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและการตั้ง ส.ส.ร. ในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 คือจุดตัดสำคัญที่กำหนดชะตากรรมของประชาธิปไตยไทย การตัดสินใจของรัฐสภา โดยเฉพาะ สว. จะเป็นตัวชี้วัดว่าประเทศไทยจะก้าวไปสู่การออกแบบกติกาทางการเมืองที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายเพื่อลดความขัดแย้งในระยะยาว หรือจะติดหล่มความขัดแย้งเดิมซ้ำอีกครั้ง ผู้ผลิตข่าวสารและสาธารณชนจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดด้วยวิจารณญาณและข้อมูลที่เข้มข้น.

อ่านข่าวอื่น ๆ :
- ฝันเป็นจริง! “ประตูแห่งความฝัน” คว้าแชมป์จิตรกรรมเอเซีย พลัส ครั้งที่ 13 ชิงเงินรางวัลเกือบล้านบาท! ชวนดู 46 ผลงานที่ BACC ก่อนเปิดหัวข้อใหม่ “การเปลี่ยนผ่าน”
- เปิดเลนส์สองขุมพลัง! MI Group ชี้ Gen Z & Gen Horizon คือกำลังซื้อหลักที่กำหนดเศรษฐกิจไทย
- ส.ส.ร. สู่รัฐธรรมนูญใหม่ – เดิมพันสำคัญบนทางแยกอำนาจ
- Bloodless Warfare วิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา : การยืนยันอำนาจอธิปไตย บนความท้าทายทางกฎหมายสากล
- นับหนึ่งสู่ ‘ฉบับใหม่’ หรือ ‘เกมต่อรอง’?: บทวิเคราะห์ 3 ร่างแก้รัฐธรรมนูญ ในสภา