นับหนึ่งสู่ ‘ฉบับใหม่’ หรือ ‘เกมต่อรอง’?: บทวิเคราะห์ 3 ร่างแก้รัฐธรรมนูญ ในสภา

การเมืองไทยเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญอีกครั้ง เมื่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้เริ่มพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 (ฉบับที่ ..) ในวาระแรก (รับหลักการ) จำนวน 3 ฉบับ ระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคม 2568

การพิจารณาครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงกระบวนการทางกฎหมาย แต่คือการต่อสู้ทางความคิดและอำนาจระหว่างพรรคการเมืองหลักสามกลุ่ม ได้แก่ พรรคเพื่อไทย (พท.), พรรคภูมิใจไทย (ภท.), และ พรรคประชาชน (ปชน.) โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นเดิมพันคือทิศทางของประชาธิปไตยไทยในทศวรรษหน้า

ประเด็นร้อนที่สาธารณชนจับตามองคือ การบรรลุ “จุดร่วม” ในการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมดตามร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน หรือการยอมรับให้ร่างของพรรคภูมิใจไทย ที่มีแนวทางให้ ส.ส.ร. มาจากผู้เชี่ยวชาญ/ผู้ทรงคุณวุฒิที่แต่งตั้ง มีบทบาทเป็นร่างหลัก ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า “ยึดโยงประชาชนน้อย”

TopicThailand จะวิเคราะห์จุดต่างและจุดร่วมของทั้ง 3 ร่าง และประเมินฉากทัศน์ทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นหลังการลงมติวาระแรก

จุดต่างและจุดร่วม 3 ร่าง

ทั้งสามร่างมีเป้าหมายร่วมกันคือการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (ทั้งฉบับ) โดยมีกลไกสำคัญคือ สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งเป็นไปตามผลการวิเคราะห์ของนักวิชาการจากหลายสถาบัน อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ “ที่มา” และ “อำนาจ” ของ ส.ส.ร. และ “ขอบเขต” การแก้ไข

ร่างของพรรคที่มาของ ส.ส.ร. (ตามข้อเสนอ) ขอบเขตการแก้ไข
พรรคเพื่อไทย (พท.)ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดแก้ไขได้ทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1 และหมวด 2 (รูปแบบของรัฐและสถาบันฯ)
พรรคประชาชน (ปชน.)ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดแก้ไขได้ทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1 และหมวด 2
พรรคภูมิใจไทย (ภท.)ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้ง และส่วนหนึ่งมาจากการแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิมีข้อจำกัดในการแก้ไขมากกว่าร่างอื่น โดยเฉพาะกลไกขององค์กรอิสระบางส่วน

ข้อมูลเชิงสถิติ: หากอ้างอิงจากบทวิเคราะห์ทางการเมือง พบว่าร่างของ พท. และ ปชน. มีความใกล้เคียงกันในแง่ของการให้อำนาจประชาชนผ่าน ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% ซึ่งสะท้อนเสียงเรียกร้องของภาคประชาชนบางส่วน ในขณะที่ร่างของ ภท. ถูกมองว่าเป็นการประนีประนอมกับกลุ่มอำนาจเดิมและอาจเป็น “ร่างหลัก” ที่ฝ่าย ส.ว. และพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนให้การสนับสนุน

การเมืองเชิงกลยุทธ์

การพิจารณาทั้ง 3 ร่างพร้อมกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็น การเมืองเชิงกลยุทธ์ (Political Strategy) ที่ซับซ้อน:

  1. กลไกตรวจสอบอำนาจ: ผู้แทนจากพรรคประชาชนได้เน้นย้ำในการอภิปรายว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมุ่งเน้นที่การกระจายอำนาจและการสร้างกลไกตรวจสอบไม่ให้ศาลหรือองค์กรอิสระกลายเป็น “เครื่องมือทางการเมือง” การที่พรรครัฐบาลต้องพิจารณาร่างของพรรคฝ่ายค้านควบคู่กัน ทำให้รัฐบาลไม่สามารถ “ล็อกสเปก” เนื้อหาในชั้นกรรมาธิการได้อย่างสมบูรณ์
  2. บทบาทของ ส.ว. และพรรคร่วมรัฐบาล: ในการลงมติวาระแรก (รับหลักการ) ต้องใช้เสียง ส.ว. อย่างน้อย 1 ใน 3 (ประมาณ 84 คน) [แหล่งอ้างอิง: รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 256]. การที่ ส.ว. มีสัญญาณว่าจะโหวตรับทุกร่าง (ทั้ง 3 ฉบับ) เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ทำให้กระบวนการสามารถเดินหน้าต่อได้ในวาระที่ 1 โดยไม่มีฝ่ายใด “แพ้” ทันที แต่เป็นการโยน “ศึก” ไปสู่ชั้นกรรมาธิการและวาระที่ 2 (การพิจารณารายมาตรา) ซึ่งกระบวนการต่อรองจะเข้มข้นขึ้น
  3. การดึงมวลชนและการสร้างความชอบธรรม: การที่ทุกพรรคผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการส่งสัญญาณต่อสาธารณะว่า “ทุกฝ่ายสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งเป็นการลดแรงกดดันจากมวลชนที่ต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ในทางปฏิบัติ เนื้อหาที่จะได้มาในชั้นกรรมาธิการอาจยังไม่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำฝ่ายค้านได้กล่าวเตือนไว้ว่า หากเนื้อหาในวาระที่ 2 และ 3 ไม่ตอบโจทย์ พรรคประชาชนจะไม่รับหลักการในวาระ 3

การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 14-15 ตุลาคม 2568 คือ จุดเริ่มต้น ไม่ใช่จุดสิ้นสุด ของการเดินทาง รัฐสภาและประชาชนต้องตระหนักว่า หากทั้ง 3 ร่างผ่านวาระแรก (ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงตามสัญญาณการเมือง) “เกม” ที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นในชั้นกรรมาธิการและการลงประชามติ ข้อมูลสถิติที่ควรพิจารณา: การจัดทำประชามติแต่ละครั้งใช้งบประมาณหลายพันล้านบาทเทียบเท่าการเลือกตั้งใหญ่ 1 ครั้ง ดังนั้น ความล่าช้าหรือความล้มเหลวในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองและภาระทางการคลังของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทบาทของ TopicThailand คือการติดตาม “เนื้อแท้” ของการต่อรองในชั้นกรรมาธิการ เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นจริงต่อผู้อ่านต่อไป.

สั่งซื้อน้ำหอมทุกขนาด ได้ที่นี่

อ่านข่าวอื่น ๆ :

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *