นักวิชาการชี้บริบททางประวัติศาสตร์และการใช้คำในไทยอาจมีนัยยะเชิงลบ
แม้คำว่า “เขมร” จะถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในสังคมไทย เพื่ออ้างถึงประเทศกัมพูชา ชาวกัมพูชา หรือวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ Khmer แต่ในมุมมองของชาวกัมพูชาหลายคน คำนี้กลับสร้างความรู้สึกไม่สบายใจ และในบางกรณีอาจถูกมองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติ หรือแม้แต่มีลักษณะดูแคลนโดยไม่รู้ตัว

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและวัฒนธรรมเปรียบเทียบ ชี้ว่า ความไม่พึงพอใจของชาวกัมพูชาอาจไม่ได้อยู่ที่ตัวคำเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับบริบททางประวัติศาสตร์ ภาพจำในสื่อไทย และวิธีการใช้งานในสังคมไทยที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง
บริบททางภาษาและความต่างในการรับรู้ ในขณะที่คนไทยเรียกเพื่อนบ้านทางตะวันออกว่า “เขมร” มาตั้งแต่ในอดีต ชาวกัมพูชาเรียกตนเองว่า “Khmer” (อ่านว่า เขมา) ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายในเชิงบวก เป็นตัวแทนอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ ภาษา และวัฒนธรรม โดยไม่รู้สึกว่ามีความหมายด้านลบ
อย่างไรก็ตาม ในภาษาไทย คำว่า “เขมร” ถูกใช้ในหลากหลายบริบท ทั้งเชิงทางการและไม่เป็นทางการ เช่น การเปรียบเปรยในภาษาพูดว่า “พูดเป็นภาษาเขมร” เพื่อสื่อว่าฟังไม่รู้เรื่อง หรือ “หน้าเหมือนเขมร” ในเชิงล้อเลียนรูปลักษณ์ ซึ่งส่งผลให้คำนี้ถูกตีความว่าเป็นการลดทอนคุณค่าของอีกฝ่าย



ปัจจัยด้านประวัติศาสตร์และอคติในวาทกรรมไทย นักวิชาการด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระบุว่า ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ในประวัติศาสตร์ มีทั้งช่วงเวลาของความใกล้ชิดและความขัดแย้ง โดยเฉพาะกรณีพิพาทด้านดินแดน เช่น ข้อพิพาทเรื่องปราสาทพระวิหาร รวมถึงการตีความประวัติศาสตร์ต่างมุมระหว่างสองประเทศ
บริบทเหล่านี้สะท้อนอยู่ในสื่อและวาทกรรมของสังคมไทย จนทำให้การใช้คำว่า “เขมร” ในบางบริบทมีภาพจำเชิงลบโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดหรือความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนทั้งสองชาติ
ความแตกต่างระหว่าง “ขอม” กับ “เขมร” ในสายตาคนไทย นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตจากนักภาษาศาสตร์ว่า คนไทยมักใช้คำว่า “ขอม” เมื่อกล่าวถึงอารยธรรมโบราณในเชิงชื่นชม เช่น ศิลปะขอม ปราสาทขอม ขณะที่คำว่า “เขมร” กลับใช้ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง หรือสื่อบันเทิงที่นำเสนอภาพของ “ศัตรู” หรือ “คู่แค้น” ทั้งที่ในเชิงประวัติศาสตร์ ขอมกับเขมร เป็นกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกัน การแยกใช้เชิงคุณค่าเช่นนี้ อาจส่งผลต่อทัศนคติในระยะยาวโดยไม่รู้ตัว
ข้อเสนอแนะเพื่อความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดี ในยุคที่สังคมตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากขึ้น นักวิชาการเสนอว่า การใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวังและให้เกียรติเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในบริบทระหว่างประเทศ คำว่า “ชาวกัมพูชา” หรือ “ประชาชนชาวกัมพูชา” ถือว่าเหมาะสม และเป็นกลางที่สุดในการใช้ในสื่อและเอกสารราชการ
สำหรับการกล่าวถึงชาติพันธุ์หรือวัฒนธรรมในเชิงบวก อาจใช้คำว่า “ขแมร์” (Khmer) ตามรูปแบบที่เจ้าของภาษานิยมใช้เอง ซึ่งจะช่วยลดความเข้าใจคลาดเคลื่อนทางวัฒนธรรม และสะท้อนความเคารพในอัตลักษณ์ของอีกฝ่ายได้ดียิ่งขึ้น.
อ่านข่าวอื่น ๆ :