ผู้สูงอายุโปรดระวัง! ภัยเงียบ “RSV” ร้ายกว่าไข้หวัดใหญ่ 4 เท่า 🦠 อาจถึงปอดอักเสบรุนแรง-เสียชีวิต

ช่วงหลังการระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนตระหนักถึงอันตรายของ “โรคปอดอักเสบ” มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว แต่ทราบหรือไม่ว่า นอกจากโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่แล้ว ยังมีไวรัสอีกชนิดที่อันตรายไม่แพ้กัน นั่นคือ “RSV” (Respiratory Syncytial Virus)

ศ.นพ.กมล แก้วกิติณรงค์ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ ได้ให้ข้อมูลสำคัญว่า เชื้อ RSV แม้จะคุ้นเคยในกลุ่มเด็กเล็ก แต่สำหรับ ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง เบาหวาน ตับ หรือไต กลับมีความรุนแรงและอันตรายมากกว่าในเด็กถึง 10 เท่า!

⚠️ ความร้ายกาจของ RSV ในผู้ใหญ่ที่น่ากลัวกว่าที่คิด

  1. อาการเริ่มคล้ายหวัดธรรมดา: ในผู้ใหญ่ เชื้อ RSV มักเริ่มด้วยอาการคล้ายไข้หวัด มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ ทำให้เข้าใจผิดและซื้อยากินเอง แต่เมื่อเชื้อลงปอดจะเริ่มมีอาการหอบเหนื่อย ออกซิเจนต่ำ ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องเข้าโรงพยาบาล
  2. เสี่ยงลงปอดสูงและเสียชีวิต: ในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัว โอกาสเกิดปอดอักเสบจาก RSV สูงถึง 3 ใน 4 (75%) และในกลุ่มที่ลงปอด 1 ใน 4 (25%) อาจเสียชีวิตได้ ซึ่งมีความเสี่ยงในการเสียชีวิต มากกว่าไข้หวัดใหญ่ถึง 4 เท่า
  3. ไม่มี “ยารักษาเฉพาะเจาะจง”: นี่คือจุดที่น่ากังวลที่สุด! แตกต่างจากโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ที่มียาเฉพาะทางช่วยบรรเทาความรุนแรงหากรู้เร็ว แต่ RSV ยัง ไม่มี ยารักษาเฉพาะเจาะจงเมื่อเกิดอาการแล้ว การรักษาจึงเป็นการประคับประคองตามอาการเท่านั้น
  4. ทำลายปอดและอาการเรื้อรัง: หากอาการรุนแรงจนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แม้รอดชีวิต ปอดก็อาจถูกทำลายหรือเหลือปริมาณน้อยลง รวมถึงอาจเกิดภาวะอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือซึมเศร้าคล้าย Long COVID ได้
  5. เป็นซ้ำได้ตลอด: ภูมิคุ้มกันธรรมชาติจาก RSV อยู่ได้สั้นมาก ทำให้สามารถติดซ้ำได้อีก

🗓️ ช่วงระบาดและวิธีการป้องกัน

  • ช่วงระบาด: มักระบาดพร้อมไข้หวัดใหญ่ คือช่วง กรกฎาคมถึงพฤศจิกายน (ฤดูฝน-หนาว) แต่ปัจจุบันพบได้ตลอดทั้งปี
  • การแพร่กระจาย: ติดต่อทางลมหายใจ ไอ จาม และสารคัดหลั่ง เชื้อสามารถอยู่บนสิ่งของได้นานหลายชั่วโมง การใช้ชีวิตในห้องแอร์ยิ่งทำให้แพร่เชื้อได้ง่าย
  • วิธีป้องกันที่ดีที่สุด:
    • สุขอนามัยที่ดี: ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ
    • หลีกเลี่ยง: การใกล้ชิดผู้ที่มีอาการหวัด
    • การฉีดวัคซีน: ปัจจุบันมี วัคซีน RSV และควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบอื่นๆ ควบคู่กันไป เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (ทุกปี) และวัคซีนนิวโมค็อกคัส (เชื้อปอดอักเสบ)

ผู้สูงอายุและลูกหลานควรให้ความสำคัญกับ RSV ไม่ต่างจากไข้หวัดใหญ่หรือโควิด-19 เพื่อป้องกันก่อนที่ภัยเงียบนี้จะคุกคามสุขภาพอย่างรุนแรง.

อ่านข่าวอื่น ๆ :

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *