Bitget บริษัทชั้นนำด้าน Web3 และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ได้ออกมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจถึงแนวโน้มราคาของ บิตคอยน์ (Bitcoin) และ อีเธอเรียม (Ethereum) โดยชี้ว่า หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ราคาของบิตคอยน์อาจพุ่งสูงถึง 140,000 ดอลลาร์ และอีเธอเรียมอาจแตะระดับ 6,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนในตลาดคริปโต

การลดดอกเบี้ยของ Fed คือกุญแจสำคัญ
คุณเกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการของ Bitget ได้ให้ความเห็นว่า ทิศทางราคาของคริปโตเคอร์เรนซีจะขึ้นอยู่กับนโยบายดอกเบี้ยของ Fed เป็นหลัก แม้ตลาดจะคาดการณ์ว่า Fed อาจจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้ แต่หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 2.7% ซึ่งเกินเป้าหมายที่ 2% Fed ก็อาจจะยังไม่ลดดอกเบี้ยต่อเนื่องอย่างที่นักลงทุนคาดหวัง
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค Bitget จึงแนะนำให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์ Dollar-Cost Averaging (DCA) หรือการทยอยซื้ออย่างสม่ำเสมอเพื่อเฉลี่ยต้นทุน

ทำไม Ethereum อาจให้ผลตอบแทนสูงกว่า Bitcoin ในระยะสั้น
คุณไรอัน ลี หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Bitget กล่าวว่าในระยะสั้นนี้ อีเธอเรียมมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าบิตคอยน์ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น จากการใช้งานบล็อกเชนที่เพิ่มขึ้นและนักลงทุนสถาบันที่ให้ความสนใจมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ “นักลงทุนรายใหญ่ (Whales)” บางส่วนเริ่มขายบิตคอยน์เพื่อมาลงทุนในอีเธอเรียม
ในส่วนของบิตคอยน์เองก็ยังมีปัจจัยบวกจากข้อมูล On-chain ที่แสดงให้เห็นว่าปริมาณสำรองบิตคอยน์ในกระดานเทรดลดลง ซึ่งบ่งบอกว่าแรงขายลดลงและมีโอกาสฟื้นตัว โดยภาพรวมในระยะกลางถึงยาว ทั้งบิตคอยน์และอีเธอเรียมยังคงมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น
การเติบโตของ DeFi และ Tokenized Gold
นอกจากนี้ Bitget ยังชี้ให้เห็นถึงกระแสของ การเงินไร้ตัวกลาง (DeFi) ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศสนับสนุน DeFi และ Stablecoin อย่างชัดเจน สังเกตได้จากการเติบโตของทองคำในรูปแบบโทเคน (Tokenized Gold) ที่มีมูลค่าตลาดพุ่งสูงถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์อย่างทองคำสามารถทำได้ง่ายขึ้นแม้จะมีเงินลงทุนไม่มาก
โปรเจกต์ที่น่าจับตามองคือ World Liberty Finance (WLFI) ซึ่งเป็น DeFi Protocol ที่บริหารโดยลูกชายของโดนัลด์ ทรัมป์ และเพิ่งถูกลิสต์ในกระดานเทรดชั้นนำอย่าง Bitget เพื่อดูว่าจะช่วยสร้างการรับรู้และส่งเสริมการเติบโตของวงการ DeFi ได้มากขึ้นหรือไม่.
อ่านข่าวอื่น ๆ :
- ผ่าขุมทรัพย์งบซีเกมส์ 2025: เมื่อ “งบสื่อ” สูงกว่า “งบนักกีฬา” 2 เท่า และความเสี่ยงในโค้งสุดท้าย
- “ฝันสลาย! สงขลาสูญรายได้ 2,000 ล้านบาท ชั่วข้ามคืน หลังชวดเจ้าภาพซีเกมส์ โรงแรม-ร้านค้า พังยับ
- เจาะลึกงบจัดการน้ำ 2568: แสนล้านบาทหายไปไหน? ทำไมสงขลายังจมบาดาลทั้งที่ติด Top 4 งบสูงสุด
- มหาภัยพิบัติ คำนี้ได้บินกันทุกปี
- อาถรรพ์งูเห่า : บทเรียนจากการเลือกตั้ง 66 เมื่อการย้ายพรรคไม่ใช่ทางรอดเสมอไป
