“ฮุน เซน” ผู้นำที่โลกไม่ควรไว้ใจ – เผด็จการผู้รอดจากเขมรแดง สู่อำนาจ 40 ปีที่ยังไม่มีใครกล้าท้าชน

บทความโดย : สมปรารถนา หุงขุนทด บรรณาธิการข่าวทั่วไป

จากเลือดเขมรแดง ถึงบัลลังก์ ฮุน เซน – เมื่อเผด็จการไม่เคยล้มหาย หากแค่เปลี่ยนมือ” บทความเชิงลึกที่ไม่อ้อมค้อม ว่าด้วยโศกนาฏกรรมในนามของอำนาจ และเงื่อนไขที่ทำให้ชายคนหนึ่งครองประเทศได้นานถึง 40 ปี

พ.ศ. 2518 กัมพูชาเงียบงันด้วยเสียงของชัยชนะ เมื่อกองกำลัง เขมรแดง (Khmer Rouge) ภายใต้การนำของ พล พต (Pol Pot) ผู้นำกลุ่มเขมรแดง เข้ายึดกรุงพนมเปญได้สำเร็จ ทว่าเสียงแห่งชัยชนะนั้นแปรเปลี่ยนเป็นเสียงคร่ำครวญของประชาชนในเวลาไม่กี่เดือน

พลพต หรือชื่อจริงว่า สาล็อต ซาร์ (Saloth Sar) : ภาพในอดีตขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

ระบอบสุดโต่งที่ต้องการล้างสมองผู้คน ล้มล้างระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม และทำลายชนชั้นปัญญาชนเริ่มลงมืออย่างไร้ปรานี

เขมรแดงประกาศว่า “การศึกษาไม่จำเป็น” “ผู้รู้คือภัยของอุดมคติ” ส่งผลให้หมอ ครู นักวิชาการ แม้แต่ผู้ใส่แว่นหรือพูดต่างสำเนียง ถูกสังหารโดยไม่ต้องมีศาลตัดสิน

ตลอด 4 ปีแห่งอำนาจเขมรแดง (1975–1979) มีชาวกัมพูชาราว 1.7 ถึง 2 ล้านคน หรือประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของรัฐ – ความตายอันเงียบงันที่สุดในศตวรรษที่ 20 ซึ่งโลกลืม

แล้วฮุน เซน มาได้อย่างไร?

ฮุน เซน ในยุคนั้น เป็นอดีตนายทหารเขมรแดงที่แปรพักตร์ไปร่วมกับกองทัพเวียดนาม เข้าล้มระบอบเขมรแดงในปี 1979 และก่อตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดภายใต้เวียดนามขึ้นมาแทน

ทหารเวียดนามควบคุมตัวเชลยสงครามของเขมรแดง ซึ่งถูกจับกุมในเวียดนามเมื่อเดือน ส.ค. 1978

จากจุดนั้น เขาไต่เต้าจากรัฐมนตรีต่างประเทศ จนได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 1985 ขณะอายุเพียง 33 ปี และไม่เคยปล่อยมือจากอำนาจอีกเลย… นั่นเท่ากับว่าเขาครองตำแหน่งผู้นำประเทศมากว่า 40 ปี – นานยิ่งกว่าผู้นำโลกเกือบทุกคนในยุคสมัยใหม่

แล้วทำไม? ฮุน เซน ถึงอยู่นานขนาดนั้น

คำตอบไม่ใช่เพียงแค่ “เก่ง” แต่คือระบบที่ ไม่อนุญาตให้ใครเก่งกว่าอยู่ได้

  1. กำจัดศัตรูทางการเมืองอย่างเป็นระบบ – ฮุน เซน ใช้กลไกรัฐ ปรับแก้รัฐธรรมนูญ และสั่งยุบพรรคฝ่ายค้านหลัก (CNRP) เมื่อปี 2017 พร้อมปราบปรามสื่อและ NGO อย่างกว้างขวาง
  2. ปลูกฝังการปกครองแบบครอบครัว – ลูกชาย (ฮุน มาเนต) กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในปี 2023 , พี่น้องและเครือญาติควบคุมทั้งกองทัพ สื่อ และเศรษฐกิจ
  3. คุมทุกช่องทางการสื่อสาร – ตั้งแต่โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ จนถึงโซเชียลมีเดีย เสียงวิจารณ์ถูกรัฐควบคุมอย่างแนบเนียน พร้อมกฎหมายหมิ่นประมาทและความมั่นคงที่ใช้ปิดปากฝ่ายตรงข้าม
  4. ใช้ประวัติศาสตร์เป็นเกราะ – ฮุน เซน ย้ำเสมอว่า “เขาคือผู้ช่วยปลดแอกกัมพูชาจากเขมรแดง” – ประโยคที่ดูเหมือนวีรกรรม แต่ลบข้อเท็จจริงว่า เขาเองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของเขมรแดงมาก่อน

จากอดีตที่ฆ่าคนมีการศึกษา วันนี้จึงไม่มีใครกล้าท้าทายผู้นำ

สิ่งที่น่าขันและน่าสลดใจคือ ประเทศที่ฆ่าครู นักวิชาการ และผู้มีความคิดในอดีต กลับมาอยู่ในมือของผู้ที่ไม่เคยเปิดให้ “ความคิดใหม่” งอกเงย ฮุน เซน จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการสืบทอดอำนาจ ไม่ใช่ด้วยการเลือกตั้งที่แท้จริง แต่ผ่านการ ควบคุม จัดฉาก และปิดปาก

TUOL SLENG GENOCIDE MUSEUM, PHNOM PENH, CAMBODIA : พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง เมืองพนมเปญ กัมพูชา

และเมื่อคนรุ่นใหม่ถูกปิดกั้นโอกาสทางความคิด การศึกษาถูกจำกัดเสรีภาพ ประเทศจึงกลายเป็น วงจรที่ผู้นำอยู่ได้เรื่อย ๆ เพราะไม่มีใครกล้าลุกขึ้นยืน

จากเขมรแดง สู่ “เงาเผด็จการ” ในรูปแบบใหม่

แม้ไม่ใช้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบในอดีต แต่ “ความกลัว” ยังคงอยู่ในชีวิตชาวกัมพูชา
ประชาธิปไตยคือภาพลวง
การเลือกตั้งคือพิธีกรรม
เสรีภาพคือคำต้องห้าม

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม “ฮุน เซน” ถึงอยู่ในอำนาจมาได้ 40 ปี – พราะประเทศที่ฆ่าคนมีปัญญาในอดีต จะไม่มีใครเหลือพอจะลุกขึ้นมาต่อกรในวันนี้

“เมื่อเผด็จการฆ่าคนฉลาดในวันวาน เขาจึงได้ครองบัลลังก์โดยไม่มีคนตั้งคำถามในวันนี้”

— บทเรียนจากกัมพูชา ที่โลกควรจำ —

แหล่งอ้างอิง : 613 S 21 Tuol Sleng Genocide Museum Stock Photos, High-Res Pictures, and Images – Getty Images

อ่านข่าวอื่น ๆ :

สั่งสินค้าที่ Big C ออนไลน์ ที่นี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *