สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

“สื่อกัมพูชา” VS “สื่อไทย” ศึกสงครามข้อมูลใครชนะ? เจาะลึกโครงสร้างและจุดยืนที่ต่างกันสุดขั้ว

ในโลกที่ข้อมูลข่าวสาร หลั่งไหลไร้พรมแดน บทบาทของสื่อมวลชนไม่ได้เป็นเพียงผู้รายงานข่าว แต่ยังเป็นผู้กำหนดมุมมองความจริงและสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศ บทความนี้จะวิเคราะห์เจาะลึกถึงโครงสร้างการทำงานและบทบาทของสื่อมวลชนระหว่างประเทศไทย และกัมพูชา โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่สำคัญ รวมถึงมุมมองที่ประชาคมโลกมีต่อสื่อของทั้งสองประเทศ บนพื้นฐานของความเป็นกลางและข้อเท็จจริง โครงสร้างและการควบคุม สื่อไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน vs. สื่อกัมพูชาภายใต้การกำกับ สื่อมวลชนไทย : มีโครงสร้างที่ค่อนข้างหลากหลายและซับซ้อน ประกอบด้วยสื่อของรัฐ (เช่น Thai PBS, NBT), สื่อเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (เช่น ช่อง 3, 7, Workpoint) และสื่อออนไลน์อิสระจำนวนมาก แม้จะมีกฎหมายที่รับรองเสรีภาพในการแสดงออก แต่สื่อไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายจากแรงกดดันทางการเมืองและทุนนิยม การแทรกแซงจากภาครัฐและกลุ่มทุนยังคงเป็นปัญหาที่ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในประเด็นที่อ่อนไหว เช่น สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง อย่างไรก็ตาม สื่อออนไลน์และสื่ออิสระได้เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ ทำให้เกิดการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจมากขึ้น สื่อมวลชนกัมพูชา : มีโครงสร้างที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน สื่อส่วนใหญ่เป็นของรัฐ หรือมีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับพรรครัฐบาล มีเพียงไม่กี่แห่งที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง การออกใบอนุญาตและการดำเนินงานของสื่อมักอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสารสนเทศอย่างใกล้ชิด การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือผู้นำมักนำไปสู่การถูกคุกคามหรือปิดกิจการ ส่งผลให้เกิดความจำกัดในเนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอ ความหลากหลายทางความคิดเห็นจึงมีน้อยกว่าในประเทศไทยมาก บทบาทในการทำหน้าที่ : รายงานข่าว vs. เครื่องมือของรัฐ บทบาทของสื่อไทย […]

อ่านต่อ

รวบแรงงานกัมพูชา 16 ชีวิต ลอบเข้าไทย หวังหางาน-ให้ลูกได้สอบ สุดท้ายถูกทิ้งไร้เยื่อใย

กลุ่มแรงงานกัมพูชา 12 คน พร้อมเด็กอีก 4 คน ตัดสินใจจ่ายหัวละ 6,000 บาท หวังข้ามแดนกลับไทย แต่ถูก “ผู้นำพา” ปล่อยทิ้งกลางป่าชายแดน ก่อนถูกรวบโดยทหารพราน ขณะเดินเท้าหลงทางในพื้นที่แนวชายแดนสระแก้ว วันนี้ (2 ส.ค. 2568) – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองกำลังบูรพา โดยหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ได้จัดกำลังลาดตระเวนตรวจตราบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านดงงู ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ระหว่างการลาดตระเวน เจ้าหน้าที่พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจำนวน 16 คน กำลังเดินเท้าอย่างลำบากผ่านช่องทางธรรมชาติ เมื่อเข้าตรวจสอบใกล้ชิด พบว่าเป็นแรงงานชาวกัมพูชา 12 ราย (ชาย 6 หญิง 6) พร้อมเด็กชายอีก 4 คน ซึ่งทั้งหมดไม่มีเอกสารเดินทางหรือหนังสืออนุญาตเข้าเมือง จากการสอบถามเบื้องต้น แรงงานกลุ่มนี้เคยทำงานขายของในตลาดเบญจวรรณ อ.อรัญประเทศ แต่เดินทางกลับประเทศกัมพูชาเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากวิตกสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดน แต่หลังจากกลับไปพักอยู่ที่บ้านได้เพียงไม่กี่วัน พวกเขากลับประสบปัญหาไม่มีรายได้ และลูกบางคนยังคงเรียนในไทย […]

อ่านต่อ

“ฮุน เซน” ผู้นำที่โลกไม่ควรไว้ใจ – เผด็จการผู้รอดจากเขมรแดง สู่อำนาจ 40 ปีที่ยังไม่มีใครกล้าท้าชน

บทความโดย : สมปรารถนา หุงขุนทด บรรณาธิการข่าวทั่วไป จากเลือดเขมรแดง ถึงบัลลังก์ ฮุน เซน – เมื่อเผด็จการไม่เคยล้มหาย หากแค่เปลี่ยนมือ” บทความเชิงลึกที่ไม่อ้อมค้อม ว่าด้วยโศกนาฏกรรมในนามของอำนาจ และเงื่อนไขที่ทำให้ชายคนหนึ่งครองประเทศได้นานถึง 40 ปี พ.ศ. 2518 กัมพูชาเงียบงันด้วยเสียงของชัยชนะ เมื่อกองกำลัง เขมรแดง (Khmer Rouge) ภายใต้การนำของ พล พต (Pol Pot) ผู้นำกลุ่มเขมรแดง เข้ายึดกรุงพนมเปญได้สำเร็จ ทว่าเสียงแห่งชัยชนะนั้นแปรเปลี่ยนเป็นเสียงคร่ำครวญของประชาชนในเวลาไม่กี่เดือน ระบอบสุดโต่งที่ต้องการล้างสมองผู้คน ล้มล้างระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม และทำลายชนชั้นปัญญาชนเริ่มลงมืออย่างไร้ปรานี เขมรแดงประกาศว่า “การศึกษาไม่จำเป็น” “ผู้รู้คือภัยของอุดมคติ” ส่งผลให้หมอ ครู นักวิชาการ แม้แต่ผู้ใส่แว่นหรือพูดต่างสำเนียง ถูกสังหารโดยไม่ต้องมีศาลตัดสิน ตลอด 4 ปีแห่งอำนาจเขมรแดง (1975–1979) มีชาวกัมพูชาราว 1.7 ถึง 2 ล้านคน หรือประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของรัฐ – ความตายอันเงียบงันที่สุดในศตวรรษที่ […]

อ่านต่อ

“กัมพูชา” ดันทีมสังเกตการณ์หยุดยิง จับมือมาเลย์แก้พิพาทชายแดน

พลเอกเตีย เซ็ยฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ได้พบหารือกับ พลเอก โมฮัมหมัด นิซาม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพมาเลเซีย ซึ่งได้หารือเกี่ยวกับความขัดแย้งชายแดนกัมพูชา – ไทย รวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา พลเอกเซ็ยฮา ระบุอีกว่า การที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพมาเลเซีย เข้าพบในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของมาเลเซียในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านของอาเซียน ที่จะแก้ไขปัญหาชายแดนกัมพูชา – ไทย โดยเริ่มต้นดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในการพิสูจน์ว่ากัมพูชาได้ทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด จึงได้เชิญบุคคลที่สามเข้าร่วมสังเกตการณ์ ซึ่ง พลเอกเตีย เซ็ยฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แจ้งว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชา จะนำคณะผู้แทนนักการทูต ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ เข้าตรวจสอบสถานการณ์จริงตามแนวชายแดนกัมพูชา – ไทย ก่อนหน้านี้ ทางการกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายไทย ตามการรายงานของเฟรชนิวส์ (Fresh News) สื่อท้องถิ่น ด้าน พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าว เมื่อ 29 […]

อ่านต่อ

เปิดภาพทหารกัมพูชา 18 นาย ยอมจำนน “ไทย” ควบคุมตามหลักมนุษยธรรม สากลยกย่อง

กลางสมรภูมิเดือด “ซำแต” กองทัพไทยโชว์ภาพนาทีจับกุมทหารกัมพูชา ติดอาวุธครบมือ 18 นาย ยอมจำนนไม่ขัดขืน พร้อมส่งผู้บาดเจ็บเข้าผ่าตัดทันที เผยดูแลอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยรายงานเหตุการณ์ล่าสุดจากชายแดนไทย – กัมพูชา หลังเกิดการปะทะในพื้นที่ “ซำแต” อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า ได้ควบคุมตัวทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย ซึ่งตกค้างอยู่ในพื้นที่และยอมจำนนโดยสงบ ทหารทั้ง 18 นาย อยู่ในสภาพติดอาวุธครบมือ แต่ไม่มีท่าทีคุกคามหรือขัดขืน จึงถูกควบคุมตัวอย่างสงบ และปลดอาวุธตามระเบียบทางทหาร พร้อมทั้งดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด รายงานระบุว่า ในจำนวนนี้มีทหารยศร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท 2 นาย และสิบตรี 1 […]

อ่านต่อ

ทำไมไทยต้องยื่นประท้วง? เขมรผิดข้อตกลงหยุดยิง ยิงซ้ำหลายจุด

เปิดแถลงการณ์รัฐบาลไทย หลังกัมพูชาไม่หยุดยิง ละเมิดข้อตกลง ล่าสุดยื่นหนังสือประท้วงไปยังอันวาร์-สหรัฐ-จีน แล้ว ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เเถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใด ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 […]

อ่านต่อ

เปิดผลเจรจา“แม่ทัพภาค 2” พบผู้นำทหารเขมร ตกลงหยุดยิง-ห้ามเคลื่อนกำลัง จับตานัดต่อไปที่กัมพูชา

วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568)  พล.ต.วันธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยความคืบหน้าสำคัญของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้พบหารือกับ รองผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ณ พื้นที่ ช่องจอม จ.สุรินทร์ การพูดคุยระดับสูงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “เบรกปะทะ” หลังความรุนแรงพุ่งต่อเนื่องหลายวัน โดย ผลการเจรจาเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบใน 7 ข้อตกลงสำคัญ ดังนี้ 1. หยุดยิงทุกแนวรบทันที2. ห้ามโจมตีพลเรือนโดยเด็ดขาด3. งดเสริมกำลังเพิ่มเติมในพื้นที่4. ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังในแนวชายแดน5. อำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต6. ตั้งทีมประสานงานร่วม ฝ่ายละ 4 คน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า7. เตรียมหารือรอบถัดไปในการประชุม GBC (General Border Committee) ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ 4 ส.ค.นี้ สถานการณ์หลังเจรจายังอยู่ในช่วง “จับตาอย่างใกล้ชิด” ข้อตกลงเหล่านี้จะนำสู่ความสงบถาวรหรือไม่—ต้องรอดูผลการประชุม GBC ซึ่งถือเป็นเวทีระดับชาติที่มีน้ำหนักต่อท่าทีทั้งสองฝ่าย

อ่านต่อ

แรงงานเขมร ทะลักกว่าหมื่นคน! ติดค้างหน้าด่านบ้านแหลม ยอมนอนข้างถนนรอด่านเปิด

ชาวกัมพูชานับหมื่นตกค้างหน้าด่านบ้านแหลม จันทบุรี หลังเดินทางกลับไม่ทันเวลาปิด ยอมนอนค้างกลางดึก หวังกลับบ้านท่ามกลางไฟสงครามชายแดน – เสียงสะท้อนแรงงานอยากให้สองประเทศกลับมาสงบโดยเร็ว วันนี้ (28 กรกฎาคม 2568)  บรรยากาศตลอดคืนที่หน้าด่านถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เต็มไปด้วยแรงงานชาวกัมพูชานับหมื่นคน ที่ตกค้างหลังเดินทางกลับบ้านไม่ทันเวลาปิดด่าน พากันนั่งรอ นอนค้างตามอาคารตลาดบ้านแหลม ท่ามกลางอากาศเย็นและความไม่แน่นอนในสถานการณ์ชายแดน แรงงานส่วนใหญ่เดินทางมาจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย โดยมีเป้าหมายจะข้ามแดนกลับบ้านเกิด หลังสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาเริ่มทวีความรุนแรง นายบอล ชาวจังหวัดศรีโสภณ ประเทศกัมพูชา ซึ่งทำงานในกรุงเทพฯ เปิดใจว่า เดินทางมาพร้อมครอบครัวเพื่อกลับบ้าน แม้ต้องนอนรอด่านเปิดตอนเช้า ก็ยอมรับได้ พร้อมหวังให้ความขัดแย้งยุติลงโดยเร็ว เพราะตั้งใจจะกลับมาทำงานในไทยอีกหากสถานการณ์สงบ ขณะที่ช่วงเช้ามืดเวลา 06.00 น. บริเวณด่านถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ ก็เริ่มมีแรงงานชาวกัมพูชาทยอยเดินทางมารอตั้งแต่ตีสอง คาดว่าเป็นกลุ่มที่ทราบข่าวความแออัดหน้าด่านบ้านแหลม จึงเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เร่งจัดระเบียบ พร้อมดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของแรงงานที่ตกค้างในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความหวังของทุกฝ่ายว่า สงครามจะไม่ยืดเยื้อ และจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติในเร็ววัน

อ่านต่อ

“สุรินทร์” ประกาศภัยสงคราม! จังหวัดแรกของไทย ยกระดับเทียบภัยพิบัติระดับชาติ

สุรินทร์ – ประกาศภัยสงครามเป็นจังหวัดแรก ยกระดับเทียบเท่าประกาศภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว เพื่อให้ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาได้อย่างใกล้ชิด นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ออกประกาศด่วนที่สุดถึงนายอำเภอทุกอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงที่ทวีความตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเอกสารระบุว่า ด้วยสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชามีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการปะทะตลอดแนวชายแดนอำเภอบัวเชด สังขะ กาบเชิง และพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ด้วยอาวุธหลายชนิด รวมถึงการโจมตีสถานที่สำคัญ เช่น สถานบริการสาธารณสุข สถานีบริการน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ และพื้นที่ชุมชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดสาธารณภัยหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัย หรือกรณีฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ จึงขอซักซ้อมแนวทางปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ดังนี้ 1. ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามหน้าที่และอำนาจให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามพื้นพื้นที่ชายแดนดังกล่าว 2.กรณีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองกำลังฝ่ายไทยและกองกำลังฝ่ายกัมพูชาบริเวณพื้นพื้นที่ชายแดน ที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายของประชาชนหรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐถือเป็นสาธารณภัย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 4 และตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ข้อ 5 […]

อ่านต่อ

จันทบุรี ระทึก! คลื่นมนุษย์กัมพูชานับหมื่นทะลักหน้าด่าน หวิดเหยียบกันตาย

เช้าวันนี้ (27 ก.ค. 68) บริเวณด่านถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เกิดเหตุชุลมุนหนัก เมื่อชาวกัมพูชากว่า 30,000 คน แห่อพยพกลับประเทศ ทะลักแน่นหน้าด่านก่อนเวลาเปิด 09.00 น. พร้อมขนสัมภาระจนพื้นที่โดยรอบกลายเป็นคลื่นมนุษย์ขนาดยักษ์ แม้เจ้าหน้าที่จะเปิดช่องทางเอกสาร Border Pass ผ่านประตูเล็ก แต่ไม่สามารถระบายฝูงชนจำนวนมหาศาลได้ จนต้องประชุมด่วนและตัดสินใจเปิดประตูใหญ่ หน้าด่าน พร้อมแบ่งช่องทางออกเป็น 3 ส่วน เพื่อควบคุมความเป็นระเบียบ และป้องกันเหตุเหยียบกันตาย ระหว่างนั้นพบมีหญิงตั้งครรภ์และเด็กจำนวนมากถูกอนุโลมให้ผ่านก่อนตามหลักมนุษยธรรม รวมถึงมีผู้เป็นลมจากการรอคิวยาว ทางทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือทันที จนถึงเวลา 10.30 น. มีผู้ข้ามพรมแดนกลับประเทศได้แล้วกว่า 20,000 คน ขณะยังมีอีกเกือบ 10,000 คนรอคิว พร้อมรถอีกหลายคันที่ทยอยเดินทางเข้าพื้นที่ หวังทันเวลาก่อนปิดด่านเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ระบุ เร่งอำนวยความสะดวกเต็มที่ หวังไม่ให้มีผู้ตกค้างอีกเหมือนที่ผ่านมา ยืนยันใช้ มาตรการสูงสุด ป้องกันโศกนาฏกรรมซ้ำรอย

อ่านต่อ