ส่งออก ก.ย. 68 พุ่ง 19% นิวไฮรอบ 42 เดือน! พาณิชย์ปรับเป้าทั้งปี ‘เกือบ 10%’ – สหรัฐฯ ปั๊มแรง 35%

กรุงเทพมหานคร, 28 ตุลาคม 2568 – เศรษฐกิจไทยได้รับสัญญาณบวกที่ทรงพลังที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่ง เมื่อกระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน 2568 สร้างความประหลาดใจเชิงบวกให้กับทุกสำนักวิเคราะห์ โดยขยายตัวสูงถึง +19.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นอัตราการเติบโตที่สูงสุดในรอบ 42 เดือน แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ +7.0% เกือบสามเท่า (อ้างอิง: Bangkok Post, 27 ต.ค. 68)

การเติบโตแบบก้าวกระโดดนี้ ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์ตัดสินใจปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของการส่งออกทั้งปี 2568 อย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมที่คาดไว้เพียง +2% ถึง +3% ขึ้นเป็น +9.4% ถึง +10.4% (อ้างอิง: สำนักข่าวอิศรา, 27 ต.ค. 68) อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข่าวดีนี้ TopicThailand พบว่ายังมี “สัญญาณเตือน” ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องวิเคราะห์อย่างรอบคอบ

เจาะลึก “พระเอก” ผู้ขับเคลื่อนการเติบโต

การเติบโตที่น่าทึ่งในเดือนกันยายน มาจากมูลค่าการส่งออกรวม 30,970.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อ้างอิง: สนค., 27 ต.ค. 68) โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักดังนี้:

1. ตลาดสหรัฐฯ: การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ (+35.3%) ตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทยอย่างสหรัฐอเมริกา คือ “พระเอก” ตัวจริงของเดือนนี้ โดยขยายตัวสูงถึง +35.3% (YoY) การเติบโตนี้สะท้อนความต้องการ (Demand) ที่แข็งแกร่ง และที่สำคัญคือ “ความชัดเจนด้านนโยบายภาษี” ที่ทำให้นักลงทุนและผู้นำเข้าคลายความกังวลและกลับมาสั่งซื้อสินค้าล็อตใหญ่

2. การฟื้นตัวของตลาดหลักอื่นๆ ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ แต่ตลาดหลักอื่นๆ ก็ขยายตัวในเกณฑ์ดีเกือบทั้งหมดแสดงถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์โลกที่กว้างขวางขึ้น:

  • อาเซียน (5 ประเทศ): +20.4%
  • สหภาพยุโรป (EU): +11.9%
  • ญี่ปุ่น: +6.2%
  • จีน: +3.2%

3. สินค้าอุตสาหกรรมนำทัพ การเติบโตนี้ถูกขับเคลื่อนโดยสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะยานยนต์และชิ้นส่วน และสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทานโลก

“ข้อควรระวัง” ที่ซ่อนอยู่ในตัวเลข 19%

ในฐานะสื่อเชิงวิเคราะห์ TopicThailand เห็นจำเป็นต้องชี้ให้เห็นถึง “อีกด้าน” ของเหรียญ แม้ตัวเลขพาดหัวจะดูดี แต่มี 2 ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด:

1. การนำเข้าที่พุ่งสูง (+17.2%) ในเดือนเดียวกัน การนำเข้าของไทยก็พุ่งสูงถึง +17.2% (YoY) (อ้างอิง: สนค., 27 ต.ค. 68) แม้จะยังส่งผลให้ไทย “เกินดุลการค้า” อยู่ 1,275.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การนำเข้าที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึง:

  • ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น: ซึ่งอาจกระทบกำไรของผู้ประกอบการ
  • การนำเข้าวัตถุดิบ/สินค้าทุน: ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตเพื่อส่งออก หากการส่งออกในอนาคตสะดุด หนี้สินส่วนนี้จะเป็นภาระทันที

2. สัญญาณอันตรายจากภาคเกษตร: “ข้าว” (-15.6%) นี่คือ “ธงแดง” ที่สำคัญที่สุด ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมกำลังฉลอง ภาคเกษตรกรรมซึ่งเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทยกลับสวนทางอย่างน่ากังวล

การส่งออก “ข้าว” ในเดือนกันยายน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ -15.6% (YoY) (อ้างอิง: Kaohoon International, 27 ต.ค. 68) และเมื่อมองภาพรวม 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.–ก.ย.) ตัวเลขที่ TopicThailand ระบุไว้คือติดลบถึง -23.1%

นี่คือสัญญาณชัดเจนของ “การฟื้นตัวแบบ K-Shape” (K-Shaped Recovery) ที่ภาคส่วนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม (แขนบนของ K) พุ่งทะยานขึ้น แต่ภาคส่วนดั้งเดิมและเกษตรกรรม (แขนล่างของ K) กลับดิ่งลง สร้างความเหลื่อมล้ำทางรายได้ที่รุนแรงขึ้น

บทสรุปและแนวโน้ม: เป้าหมาย 10% ท้าทาย แต่เป็นไปได้

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการ สนค. แสดงความมั่นใจว่าการส่งออกในไตรมาสสุดท้ายของปีจะยังคงเติบโตได้ดี (อ้างอิง: ไทยโพสต์, 27 ต.ค. 68) การปรับเป้าทั้งปีขึ้นเป็น +9.4% ถึง +10.4% ถือเป็นเป้าหมายที่ “ท้าทายอย่างยิ่ง” แต่ก็ “เป็นไปได้” หากตลาดสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง

โดยสรุป ข่าวการส่งออก +19.0% คือข่าวดีที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่งของเศรษฐกิจไทย และเป็นเครื่องยนต์หลักที่จะขับเคลื่อน GDP ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและผู้ประกอบการไม่สามารถชะล่าใจได้ ความเสี่ยงเรื่องต้นทุนนำเข้า และวิกฤตในภาคการเกษตร (โดยเฉพาะข้าว) คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไขควบคู่ไปกับการเฉลิมฉลองสถิติใหม่นี้.

อ่านข่าวอื่น ๆ :

สั่งสินค้าได้เลยที่นี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *