ผ่าเศรษฐกิจ ‘ไฮซีซัน’ ฤดูหนาว 2568: โอกาสทองทำเงินจากการท่องเที่ยว 1.2 ล้านล้านบาท และความท้าทายที่ผู้ประกอบการไทยต้อง ‘ยกเครื่อง’

ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 (กรมอุตุนิยมวิทยา) ซึ่งจุดประกายความคึกคักให้กับภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวในฤดูหนาวปีนี้มาพร้อมกับภาพเศรษฐกิจที่ซับซ้อน ทั้งโอกาสในการสร้างรายได้มหาศาลจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และความท้าทายจากการชะลอตัวของตลาดต่างชาติ ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่ง “ยกเครื่อง” กลยุทธ์เพื่อรับมือกับบริบทใหม่

ฤดูหนาวปี 2568 : โอกาสทำเงินจากการท่องเที่ยวในประเทศ

การท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงเป็นเสาหลักที่ช่วยพยุงภาคธุรกิจในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ttb analytics ประเมินว่า รายได้ท่องเที่ยวของคนไทยในปี 2568 คาดว่าจะสร้างมูลค่าเกินกว่า 1.20 ล้านล้านบาท

แหล่งท่องเที่ยวรับลมหนาวในภาคเหนือ (ดอยอินทนนท์, เชียงใหม่) และภาคอีสาน (ภูกระดึง, ภูเรือ) ได้ส่งสัญญาณบวกทันทีที่มีการประกาศฤดูหนาว โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปสัมผัสอากาศหนาวในวันแรก (23 ต.ค. 68) โดยเฉพาะที่ ดอยอินทนนท์ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมแล้วกว่า 2,683 คน (ข้อมูล 22 ต.ค. 68) และอุณหภูมิยอดดอยต่ำสุดแตะ 8 องศาเซลเซียส ขณะที่ ภูกระดึง มีนักท่องเที่ยวขึ้นพิชิตยอดกว่า 1,000 คน ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงศักยภาพการใช้จ่ายในประเทศที่ยังสูง และเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการในเมืองรองหรือเมืองท่องเที่ยวรอง

ความท้าทายที่ต้องจับตา: ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติและเงินบาท

แม้ตลาดในประเทศจะแข็งแกร่ง แต่ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยยังเผชิญความท้าทายสำคัญจากตลาดต่างชาติ:

  • นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เคยคาดการณ์ว่า ทั้งปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจ หดตัว 2.8% หรือมีจำนวน 34.5 ล้านคน ซึ่งจะทำให้รายได้ลดลงเหลือ 1.62 ล้านล้านบาท [ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, พ.ค. 2568] ขณะที่การคาดการณ์ล่าสุดของ ททท. เมื่อเดือนกันยายน 2568 ชี้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568 อาจมีจำนวน 33.4 ล้านคน ลดลง 6% โดยมีสาเหตุหลักจากตลาดเอเชียตะวันออกที่หดตัวแรง โดยเฉพาะ จีนที่ติดลบกว่า 35% [กรุงเทพธุรกิจ, ก.ย. 2568]
  • ค่าเงินบาทแข็งค่า: ททท. ระบุว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2568 เป็นอีกปัจจัยที่ ฉุดรั้งกำลังซื้อ และต้นทุนการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ [กรุงเทพธุรกิจ, ก.ย. 2568]
  • ปัญหา PM 2.5: ปัญหาฝุ่นพิษในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและกรุงเทพมหานครในช่วงฤดูหนาว ยังเป็นปัจจัยที่อาจ ลดทอนความสนใจ และทำให้คนไทยบางกลุ่มหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง [TAT Review Magazine, มี.ค. 2568]

การปรับตัวของผู้ประกอบการ: ‘ยกเครื่อง’ สู่ยุคดิจิทัลและคุณภาพ

เพื่อรักษาโมเมนตัมของการท่องเที่ยวและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในยุคใหม่ ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน:

  1. การยกระดับประสบการณ์และ ‘แหล่งท่องเที่ยวใหม่’: ttb analytics ชี้ว่า สัญญาณการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวไทย สะท้อนถึงการ อิ่มตัว จากแรงดึงดูดของแหล่งท่องเที่ยวเดิมที่ขาดการต่อยอด และขาดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ [ttb analytics, ต.ค. 2568] ผู้ประกอบการจึงต้องเน้นการสร้าง “ความประทับใจใหม่” การปรับปรุงภูมิทัศน์ และการสร้างกิจกรรมที่ตอบโจทย์ความสนใจเฉพาะกลุ่ม (Niche Markets) เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) หรือการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustainable Tourism)
  2. ก้าวสู่ยุคดิจิทัลและ AI: ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า การจองที่พักและบริการท่องเที่ยวผ่าน OTA (ออนไลน์ ทราเวล เอเย่นต์) จะเพิ่มขึ้นราว 10% ในปี 2568 ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวลงทุนระบบบริหารธุรกิจด้วย AI เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Data-Driven Strategy) และปรับกลยุทธ์การขายแบบเรียลไทม์ ให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวอิสระ (FIT: Free Independent Traveler) ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมาก [ฐานเศรษฐกิจ, ก.พ. 2568; Policy Watch, ก.ค. 2568]
  3. เจาะตลาดระยะไกลและตลาดคุณภาพ: จากข้อมูลที่ชี้ว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มระยะไกล (เช่น ยุโรป อเมริกา) ยังเติบโตได้ดีกว่านักท่องเที่ยวระยะใกล้ (เช่น จีน) ผู้ประกอบการควรหันไปเน้นการตลาดในกลุ่มตลาดศักยภาพสูงที่พำนักนานและใช้จ่ายมาก เช่น การโปรโมตแพ็กเกจท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวที่ตอบโจทย์วันหยุดยาวในซีกโลกตะวันตก (เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เร่งกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยโครงการอย่าง Amazing Thailand Passport Privileges เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไฮซีซัน [TATNewsthai.org, ต.ค. 2568]

ฤดูหนาว 2568 คือจุดเริ่มต้นของ ไฮซีซัน ที่เป็นความหวังทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีนักท่องเที่ยวไทยเป็นกำลังซื้อหลักที่คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินกว่า 1.2 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องตระหนักถึงความท้าทายด้านการฟื้นตัวของตลาดต่างชาติและพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป การลงทุนใน นวัตกรรม, การยกระดับแหล่งท่องเที่ยว, และการตลาดเฉพาะกลุ่ม จึงเป็นหัวใจสำคัญในการ “ยกเครื่อง” เพื่อให้ฤดูหนาวปีนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงแค่การฟื้นตัวชั่วคราว

แหล่งอ้างอิงและหลักฐานทางกฎหมาย (Legal Evidence)

  • กรมอุตุนิยมวิทยา. (ประกาศเรื่อง การเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2568).
  • ttb analytics. (รายงานการประเมินท่องเที่ยวไทยปี 2568-2569, ต.ค. 2568).
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยเผชิญหลายปัจจัยลบ, พ.ค. 2568).
  • กรุงเทพธุรกิจ. (‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ วูบ ททท.คาดปีนี้ 33.4 ล้านคน ‘บาทแข็ง’ ฉุดไฮซีซัน, ก.ย. 2568).
  • ฐานเศรษฐกิจ. (จับเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2568 ช่องทางสร้างโอกาสผู้ประกอบการไทย, ก.พ. 2568).
  • Policy Watch. (สัญญาณ”หมดยุคทอง“ ท่องเที่ยวไทย หดตัว-แพ้เพื่อนบ้านในเอเชีย, ก.ค. 2568).

อ่านข่าวอื่น ๆ :

สั่งซื้อสินค้าได้ทันที ที่นี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *