กรุงเทพฯ – เวทีลุมพินี (รามอินทรา) เตรียมเป็นพยานการเฟ้นหาสุดยอดนักปล้ำจับล็อกคนใหม่ของโลก เมื่อศึก ONE Fight Night 38 ซึ่งจะถ่ายทอดสดในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2568 เวลา 09:00 น. ตามเวลาไทย ได้บรรจุคู่หยุดโลกในกติกานี้ นั่นคือการปะทะกันระหว่าง “ดิโอโก เรอิส” นักรัดดาวดังจากบราซิล และ “ดาอิกิ โยเนคุระ” จอมรัดหน้าใหม่จากญี่ปุ่น เพื่อชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ปอนด์) ที่ว่างลง

ภารกิจตามล่าบัลลังก์ที่ว่างเปล่า
เข็มขัดแชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นฟลายเวต ต้องว่างลงมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 หลังจากที่ “ไมกี มูซูเมกี” อดีตเจ้าของตำแหน่งไม่ผ่านเกณฑ์การชั่งน้ำหนักของ ONE ในศึก ONE 168 ซึ่งทำให้ตำแหน่งสูงสุดของรุ่นต้องเปิดกว้าง เพื่อรอคอยนักรัดที่คู่ควรที่สุดเข้ามาสานต่อความยิ่งใหญ่
การโคจรมาพบกันของดิโอโกและดาอิกิจึงถูกที่ถูกเวลาอย่างยิ่ง เพราะทั้งคู่ต่างเป็นสุดยอดนักปล้ำจับล็อกที่มีชื่อเสียงและผลงานโดดเด่นในระดับนานาชาติ และพร้อมที่จะทุ่มสุดตัวเพื่อจารึกชื่อตัวเองในฐานะแชมป์โลก ONE คนใหม่
ดิโอโก เรอิส: ตัวแทนจากเวที ADCC
ดิโอโก เรอิส นักสู้จากบราซิลผู้นี้เริ่มต้นเส้นทางบราซิลเลียนยูยิตสู (BJJ) ตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ และสามารถไต่เต้าจนได้รับสายดำ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของ BJJ ในวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น ผลงานที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกคือการคว้าแชมป์รายการปล้ำจับล็อกที่ยิ่งใหญ่อย่าง ADCC World Championship ในรุ่น 66 กิโลกรัม ได้ถึง 2 สมัย ในปี 2565 และ 2567
“ดิโอโก” ก้าวเข้าสู่ ONE Championship ด้วยความมุ่งมั่น และพิสูจน์ฝีมือได้อย่างรวดเร็วในไฟต์เปิดตัว ด้วยการซับมิชชัน “โชยะ อิชิกุโร” ในศึก ONE Fight Night 29 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชัยชนะอันน่าประทับใจนี้ทำให้เขาคว้าโอกาสทองในการขึ้นชิงบัลลังก์โลกทันที

ดาอิกิ โยเนคุระ: จอมรัดจากแดนซามูไร
ด้านผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่นอย่าง ดาอิกิ โยเนคุระ ก็มีดีกรีที่ไม่ธรรมดา เขาได้รับสายดำ BJJ ในปี 2564 หลังเริ่มฝึกตั้งแต่อายุ 17 ปี และมีผลงานอันโดดเด่น เช่น การคว้าแชมป์ IBJJF แพน แปซิฟิก ในปี 2566 รวมถึงแชมป์รายการใหญ่อื่น ๆ อีกมากมาย
ด้วยผลงานที่จัดจ้านในระดับโลก ทำให้ “ดาอิกิ” ได้รับโอกาสสำคัญที่ไม่เคยมีใครได้รับ คือการประเดิมสังเวียน ONE Championship ด้วยการชิงเข็มขัดแชมป์โลกตั้งแต่ไฟต์แรก แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเขาจากผู้จัด
การแข่งขันครั้งนี้จึงเป็นศึกแห่งความภาคภูมิใจระหว่างสองนักรัดสายดำผู้เกรียงไกร ใครจะเป็นผู้มีเทคนิคเหนือกว่าและสามารถปิดเกมด้วยการซับมิชชันได้สำเร็จ แฟนกีฬาต่อสู้ตัวจริงสามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง 7HD กด 35 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป.

อ่านข่าวอื่น ๆ :
- บริทาเนีย แท็กทีม KBank-ttb-KTB ออกโปรฯ เด็ด: สินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี! โอกาสทองคนอยากมีบ้าน
- ดัชมิลล์ผนึกกรมส่งเสริมสหกรณ์! เปิดแคมเปญ ‘FRESH FROM FARM’ ชู ‘นมโคแท้มีที่มา’ ยกระดับทั้งฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร
- ข้อมูลคุณปลอดภัยแค่ไหน? NTT DATA-Fortanix ผนึกกำลัง! ปล่อย Cryptography-as-a-Service ปิดช่องโหว่ AI และยุค Post-Quantum
- “เปิดศึกโซเชียล: ‘กัน จอมพลัง’ ปะทะ ‘ไอซ์ รักชนก’ (พรรคประชาชน) สะท้อนความโปร่งใสเงินบริจาค-ประเด็นการเมืองสกปรก ในวิกฤตสแกมเมอร์ชายแดนไทย-กัมพูชา”
- เปิดมิติใหม่ SEA Games 2025! ทำไมไทยถึงเลือก กทม.-ชลบุรี-สงขลา เป็น 3 เจ้าภาพหลัก?