“เจ๊หงส์” คือใคร? ทำไมผู้ชายจีนถึงตกหลุมพรางง่ายดายขนาดนั้น?

เมื่อ “เจ๊หงส์แห่งหนานจิง” ปลอมเป็นหญิง ลวงชายกว่า 1,000 รายเข้าสู่กับดักกล้องลับ กลายเป็นภาพสะท้อนวิกฤตเงียบของจีน ที่กำลังเผชิญปัญหาชายโสดล้นประเทศ… จากอดีตนโยบายลูกคนเดียว สู่ความเปราะบางของสังคมชายขอบ

ไวรัลที่เกิดขึ้นในเมือง หนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เมื่อชายวัย 38 ปีนามสกุล เจียว (Jiao) ปลอมตัวเป็นหญิงนามแฝง “เจ๊หงส์” หรือในโลกโซเชียลรู้จักในชื่อ “Red Uncle” / “Nanjing Ah Hong (红姐 / 红叔)” ได้แต่งหน้าจัด ใส่วิก และแต่งกายเป็นหญิง ล่อลวงชายหลายร้อยคนให้เข้าห้องแล้วลอบตั้งกล้องถ่ายคลิปโดยไม่ได้รับอนุญาต

แม้ตำรวจจะจับกุมและอยู่ระหว่างสอบสวน (เริ่มดำเนินคดีเมื่อ 5 กรกฎาคม 2025) แต่คดีนี้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่ใหญ่กว่าการกระทำเฉพาะบุคคล นั่นคือ “วิกฤตชายไร้คู่” ในจีน

ผลพวงของนโยบายลูกคนเดียว: “ผู้ชายล้นประเทศ”

วิกฤตนี้เป็นผลสืบเนื่องจาก นโยบายลูกคนเดียว ที่รัฐบาลจีนบังคับใช้ตั้งแต่ปี 1979 รวมกับค่านิยมดั้งเดิมที่ให้คุณค่ากับ “ลูกชาย” มากกว่าลูกสาว ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ทำแท้งเลือกเพศ อย่างแพร่หลายในอดีต

จนถึงวันนี้ ช่องว่างประชากรระหว่างเพศชายและหญิงในจีนยังคงเหลื่อมล้ำอย่างน่าตกใจ

ประชากรจีนทั้งหมด 1.36 พันล้านคน

  • เพศชาย: 700 ล้านคน
  • เพศหญิง: 667 ล้านคน
  • ชายจีนวัยหนุ่ม (15–31 ปี) ที่ไร้คู่ครอง: มากกว่า 41 ล้านคน

โสดถาวร–แต่งงานบังคับ–ภาวะสิ้นหวังทางเพศ

ชายหนุ่มกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชนบท มีรายได้น้อย ไม่มีที่ดินหรือบ้าน ไม่มีความสามารถในการ “ดูแลครอบครัว” ตามค่านิยมของจีน ผู้หญิงในประเทศก็นิยมอพยพเข้าเมืองหรือแต่งงานกับชาวต่างชาติ ทำให้ ผู้ชายชนบทถูกทิ้งไว้ในสังคมที่ไร้ทางเลือก

ผลกระทบจากความไม่สมดุลนี้รุนแรง

  • บางพื้นที่เกิดการ แต่งงานแบบบังคับ หรือ “ซื้อเจ้าสาว”
  • เกิดความ เครียดทางจิตใจและพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ
  • อัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะในมณฑลห่างไกล เช่น เหอหนาน, เสฉวน, กุ้ยโจว กลายเป็นพื้นที่เงียบที่เปลี่ยวเหงา

คำถามที่จีนต้องตอบ

◾ชายหนุ่มจำนวน หลายสิบล้านคน ที่ติดอยู่ใน “ช่องว่างของระบบ” นี้ จะสามารถมีที่ยืนในสังคมได้อย่างไร?

◾จะสร้างครอบครัวได้อย่างไรในระบบที่กำหนดคุณค่าชีวิตผ่านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ?

◾จะระบายความต้องการทางเพศในสังคมที่ไม่ยอมรับทางเลือกอื่นได้อย่างไร?

◾และรัฐจะรับมือกับ ความเหงาเชิงโครงสร้าง ที่อาจระเบิดเป็นปัญหาทางสังคมได้เมื่อไหร่?

บทสรุป: “เจ๊หงส์” อาจไม่ใช่ผู้ร้ายเพียงคนเดียว

กรณีของ “เจ๊หงส์” อาจถูกมองในแง่คดีอาชญากรรมทางเพศ แต่เบื้องหลังคือ ความเงียบเหงา ความสิ้นหวัง และความบิดเบี้ยวที่สังคมสร้างขึ้น ปัญหาใหญ่ของจีนจึงไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนประชากร แต่คือ ความไม่เท่าเทียมทางเพศ ความไม่เท่าเทียมทางโอกาส และ ความล้มเหลวในการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชายหนุ่มในพื้นที่ชายขอบ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *