ลำปาง – ครอบครัวชาวลำปางสุดเป็นห่วง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตามหาลูกชายและลูกสาว คือ น้องทอย อายุ 24 ปี และ น้องน้ำ อายุ 23 ปี หลังจากทั้งคู่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกไปทำงานในประเทศกัมพูชา และไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่เพื่อนร่วมเดินทางอีก 2 คน หนีกลับมาได้อย่างปลอดภัย และยืนยันว่าทั้งหมดถูกหลอกไปทำงานในลักษณะคล้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เรื่องราวนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชาวลำปางรายหนึ่งโพสต์ตามหาคนหาย 4 คน ที่เชื่อว่าถูกหลอกไปทำงานในกัมพูชา ก่อนที่โพสต์จะมีการแก้ไขในวันถัดมา (29 ส.ค.) โดยระบุว่าเหลือคนหาย 2 คน คือน้องทอยและน้องน้ำ และขอให้ผู้พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส
แม่สุดห่วง เล่านาทีลูกถูกหลอก
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ แม่บัว แม่ของน้องน้ำ ซึ่งเล่าด้วยความกังวลว่า น้องน้ำและแฟนหนุ่มรวมถึงเพื่อนอีก 2 คน เดินทางออกจากลำปางเพื่อไปทำงานที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22-23 สิงหาคม โดยมีคนชักชวนให้ไปทำงานเป็นแอดมินตอบแชตลูกค้าของบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง แม่บัวได้พยายามห้ามปรามเนื่องจากเป็นห่วง เพราะลูกสาวเรียนจบเพียงชั้น ม.6 และไม่มีทักษะด้านคอมพิวเตอร์มากนัก แต่ลูกเขยก็ยืนยันว่าจะดูแลลูกสาวอย่างดี
กระทั่งวันที่ 25 สิงหาคม น้องน้ำได้ส่งข้อความมาทางไลน์ว่าถึงกรุงเทพฯ แล้ว และกำลังรอรถของบริษัทมารับที่ใต้สะพาน จากนั้นก็ส่งรูปรถเก๋งสีขาว และรูปรถสีแดงที่แม่บัวสังเกตได้ทันทีว่า “ไม่ใช่รถในประเทศไทย” จึงรีบบอกให้ลูกกลับออกมา แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทำให้แม่บัวเชื่อว่าลูกสาวและเพื่อนถูกพาข้ามไปฝั่งกัมพูชาอย่างแน่นอน จึงรีบเข้าแจ้งความในทันที
เพื่อนหนีรอดกลับมา ยืนยันถูกหลอก
ขณะเดียวกัน น้องกอล์ฟ แฟนหนุ่มของน้องน้ำ หนึ่งในผู้ที่ถูกหลอกและสามารถหนีกลับมาได้ เล่าว่าพวกเขาถูกชักชวนให้ไปทำงานตอบแชตที่กรุงเทพฯ โดยผู้ชักชวนอ้างว่าออฟฟิศอยู่ใกล้ชายแดนไทย เมื่อไปถึงกรุงเทพฯ ก็ถูกพาไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว ก่อนจะถูกพาเดินลัดไร่อ้อยข้ามไปอีกฝั่ง ซึ่งก็คือประเทศกัมพูชา เมื่อไปถึง น้องกอล์ฟและเพื่อนอีกคนถูกแยกตัวจากน้องน้ำและน้องทอย และถูกบังคับให้เข้าไปทำงานในส่วนกลางก่อนจะเข้าออฟฟิศ แต่โชคดีที่บัญชีของทั้งคู่มีปัญหา จึงถูกส่งตัวกลับมายังฝั่งไทยได้ก่อน โดยน้องกอล์ฟเชื่อว่าน้องน้ำจะถูกปล่อยตามมาในภายหลัง จึงรีบข้ามพรมแดนกลับมา แต่รอแล้วก็ไม่พบ ทำให้ตอนนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของแฟนสาวและเพื่อนอีกคน
ครอบครัวของทั้งน้องทอยและน้องน้ำต่างวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยและกัมพูชาช่วยกันตามหาและช่วยเหลือทั้งสองคนให้กลับมาอย่างปลอดภัย เพราะไม่แน่ใจว่าหากทำงานไม่ได้ ทั้งคู่จะถูกส่งตัวไปที่ไหนอีกหรือไม่./ภาพข่าว โดย : รัตนา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลไปาง
อ่านข่าวอื่น ๆ :
- แต่งผีไทยมาวิ่ง! “พี่ยักษ์” ณเดชน์ คูกิมิยะ ร่วมเซอร์ไพรส์ เปิดเส้นทาง 5.5 กม. เช็กอิน 10 จุดหลอน unseen ในคืน 25 ต.ค.
- จาก “ลูกคนใช้” สู่ไอคอนความงาม โยชิเผยเคยกินยาคุมวันละ 4 เม็ดเพราะความเข้าใจผิด เตือนน้อง ๆ “สวยได้ไม่ต้องเสี่ยง” พร้อมแชร์มุมมองรักตัวเองฉบับคนหวงความโสด
- ไทยเร่งลงทุน 3 แสนล้านบาทใน 4 เดือน: โอกาสจริงหรือภาระซ่อนเร้น?
- เปิดพิกัดลับ “หาดหินสะบ้า” ปริศนากลุ่มหินแปลก ท่ามกลางตำนาน “ถ้ำอาถรรพ์” ที่พังงา
- พลิกโฉมวงการแพทย์ไทย! TCELS วาง “มาตรฐาน AI รังสีวิทยา” ดันคนไทยเข้าถึงการรักษาเร็วขึ้น 10 เท่า อย่างเท่าเทียม