“บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา (มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์) ครั้งที่ 5/2568 ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน โดยมีคณะอนุกรรมการเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้มีการหารือกันในหลายประเด็น โดยมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพิ่มเติมได้แก่ “แบงค์” เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด (GSV) หรือประธานรายการมวย ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ (RWS) และ “เปรม” นายอริยะวัฏ บุษราคัมวงษ์ ผู้บริหารค่ายแฟร์เท็กซ์ เข้ามาร่วมประชุมเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังหารือเรื่องกิจกรรมต่างๆ ในการขับเคลื่อนมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ ปี 2568
ภายหลังการประชุม ผศ.พิมล เปิดเผยว่า ประเด็นที่มีการพูดคุยกันในวันนี้ก็เป็นเรื่องของมวยไทยฟอร์ออล จากนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้มีการอัพสกิล-รีสกิล เพิ่มทักษะมวยไทยให้กับคนที่สนใจ ซึ่งปัจจุบันการลงทะเบียนในระบบ วัน แฟมิลี่ วัน ซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS) มีคนลงทะเบียนมากกว่า 1 แสนคน ขณะที่ในส่วนของครูมวยทั่วประเทศตอนนี้ก็มีมากกว่า 500 คน ที่พร้อมจะเป็นผู้สอนมวยได้ ซึ่งการอบรมมวยไทยใช้เวลาประมาณ 25 วัน วันละ 2 ชั่วโมง ก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตามจังหวัดของตัวเอง ซึ่งตอนนี้สอนได้ 4-5 หมื่นคนแล้ว นอกจากนี้ก็มีเรื่องของการอบรมผู้ตัดสินต่างๆ รวมถึงการออกใบอนุญาตให้กับค่ายมวย ทั้งขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ เพื่อให้มีมาตรฐานและสำหรับคนที่สนใจเรียนมวย จะได้เลือกค่ายมวยที่ได้มารฐานด้วย
ผศ.พิมล กล่าวต่อว่า ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ก็จะมีการจัดชกมวยที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ซึ่งครั้งนี้จะต่างออกไปก็คือช่วงที่ผ่านมาหลังจากได้ทำบันทึกข้อตกลงกับกรมราชทัณฑ์ จัดกิจกรรมด้านมวยไทยในทัณฑสถานทั่วประเทศ ก็จะนำนักมวยในทัณฑสถานมาขึ้นเวทีในรายการนี้ด้วย รวมถึงยังมีการพูดคุยถึงการจัดการแข่งขันมวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ แชมเปี้ยนชิพ (MSC) ที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งไข่ น่าจะเป็นรูปธรรมในเร็วๆ นี้ จะเป็นการคัด 4 ภาคแล้วนำมาชิงแชมป์ประเทศไทยกันที่กรุงเทพฯ เป็นสนามสุดท้าย เป็นต้น
บิ๊กเอ ยังกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึง เอเลียด คิปโชเก้ นักวิ่งมาราธอน อดีตเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งจะมาประเทศไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อร่วมโปรโมทประเทศไทย ซึ่งเขาได้เซ็นสัญญากับประเทศไทยในการเป็นพรีเซนเตอร์อยู่แล้ว ฉะนั้นก็มีการมาประเทศไทยก็อยากเอามามีส่วนร่วมกับการโปรโมทมวยไทย ซึ่งกำลังดูอยู่ว่าจะหากิจกรรมอะไรเกี่ยวกับมวยไทยที่เหมาะสมกับคิปโชเก้บ้าง อย่างเช่นมาซ้อมมวย, เรียนมวยไทย, ชมมวยไทย หรือสวมกางเกงมวยไทยแล้ววิ่งก็ตาม นอกจากนี้อาจจะนำคิปโชเก้ ไปอบรมเรื่องการวิ่งให้กับนักกีฬามวยไทยเพื่อให้วิ่งได้มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นต้น
ผศ.พิมล กล่าวปิดท้ายถึงโครงการมวยไทย มาสเตอร์คลาส ที่ปัจจุบันได้เดินทางไปโปรโมทมวยไทยมาแล้ว 5 ประเทศได้แก่ ฮ่องกง, บราซิล, อังกฤษ, สกอตแลนด์ และฝรั่งเศส ว่า ได้รับการตอบรับที่ดี หลังจากที่ไปแล้วก็มีคนให้ความสนใจมวยไทยมากขึ้น ยิ่งเรานำนักมวยระดับท็อปอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ, แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม หรือเพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม ไป ก็ยิ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวต่างชาติมากขึ้น ส่งผลให้พวกเขาตามกลับมาเรียนมวยไทยกันที่ประเทศไทย จากรายงานตอนนี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 8 ร้อยล้านบาทเข้าไปแล้ว