วันนี้ (30 มี.ค.2568) เข้าสู่วันที่ 2 ของปฏิบัติการกู้ภัยอาคารถล่มในเขตจตุจักร หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. แถลงความคืบหน้าว่า ยังมีสัญญาณชีพในโซน A เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้รอดชีวิตเต็มกำลัง โดยได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จีน และอิสราเอล
แม้อุปสรรคสำคัญวันนี้คือ โอกาสฝนตก 60% แต่ทีมกู้ภัยยืนยันว่าโครงสร้างอาคารยังมั่นคง อย่างไรก็ตาม ฝุ่นจากซากอาคารอาจทำให้ระบบระบายน้ำอุดตัน กทม. จึงเร่งมือแก้ไขก่อนเกิดน้ำท่วมขัง
ด้านการจราจร ทางด่วนดินแดง ซึ่งมีเครนห้อยค้างอยู่ ขณะนี้ เคลื่อนย้ายไปแล้ว 80% คาดว่าจะมีการตัดสินใจเปิดใช้ถนนภายในวันนี้ ส่วน รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดให้บริการเที่ยงนี้ ขณะที่ สายสีชมพูต้องเลื่อนเปิดเป็นวันพรุ่งนี้
ส่วนการรับมือกรณีทางด่วนดินแดงยังเปิดไม่ได้ อาจต้องขอความร่วมมือให้ Work From Home เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักเชื่อมต่อฝั่งเหนือของกรุงเทพฯ ด้านความปลอดภัยของอาคาร มีประชาชนแจ้งผ่าน Traffy Fondue กว่า 9,500 รายการ กทม. ส่งทีมวิศวกรอาสาลงพื้นที่ตรวจสอบ 100 อาคารทันที
สำหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ รัฐบาลจัดงบประมาณเบื้องต้น 200 ล้านบาท ครอบคลุมการค้นหา กู้ภัย และการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ โดยจะมีการประกาศหลักเกณฑ์อย่างเป็นทางการเร็วที่สุด
“กทม. คุมเข้ม! สั่งเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างภายใน 2 สัปดาห์”
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ออกหนังสือขอความร่วมมือ เจ้าของอาคารและผู้ครอบครองอาคาร เร่งตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมรายงานผลให้กรุงเทพมหานครผ่าน Google Form หรือ QR Code ที่กำหนด
9 ประเภทอาคารต้องตรวจสอบด่วน!
การตรวจสอบเน้นไปที่ อาคารสูง, อาคารขนาดใหญ่พิเศษ, อาคารชุมนุมคน, โรงมหรสพ, โรงแรม, สถานบริการ, อาคารชุด, โรงงาน และป้ายขนาดใหญ่ เพื่อติดตามรอยร้าว ความเสียหาย และประเมินความปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม
มาตรการเสริมความปลอดภัย
- เจ้าของอาคารต้องประสาน ผู้ตรวจสอบอาคาร ดำเนินการตรวจสอบ
- รายงานผลการตรวจสอบต่อ กทม. ทุกวัน ผ่านลิงก์ Google Form
- ตรวจสอบ ปั้นจั่นหอสูงและเครนก่อสร้าง ก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
มาตรการนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ประชาชนสามารถกลับเข้าใช้อาคารได้อย่างปลอดภัย พร้อมให้กรุงเทพฯ รับมือความเสี่ยงจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต