ชัยชนะเหนือพื้นที่ด้วย “คุณภาพระดับอุดมการณ์” ในแวดวงการเมืองอุบลราชธานีวินาทีนี้ ไม่มีประเด็นใดร้อนแรงไปกว่าการเปิดตัว รศ.ดร.ธีระพล เพ็งจันทร์ หรือ “ดร.อู๊ด” ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคประชาชน อุบลราชธานี เขต 1 ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่การเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง แต่คือการที่ ดร.อู๊ด สามารถ “เบียดเอาชนะ” นายวิศรุต สวัสดิ์วร อดีตผู้สมัครที่มีคะแนนสะสมในมือกว่า 3 หมื่นคะแนนลงได้ในกระบวนการสรรหาภายใน ก่อนที่วิศรุตจะตัดสินใจลาออกไปร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทยในเวลาต่อมา

เส้นทาง “ดร.อู๊ด”: จากบทเรียน สนนท. สู่ยอดหอคอยวิชาการ รศ.ดร.ธีระพล ไม่ใช่ “นักวิชาการสายทฤษฎี” เพียงอย่างเดียว แต่มีประวัติการต่อสู้ทางสังคมที่ยาวนาน:
- การศึกษา: ปริญญาเอกด้านการบริหารการศึกษา (Ph.D. in Educational Administration) และดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยอธิการบดี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
- อดีตผู้ประสานงาน สนนท.อีสาน : ในยุคสุริยันต์ ทองหูเอียด ช่วงปี พ.ศ. 2538 เป็นผู้ก่อตั้ง (สนนอ.) สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นพี่ สนนท.ของศรายุทธ์ ใจหลัก และชัยธวัช ตุลาธน ,คณะทำงานสมัชชาเษตรกรรายย่อยภาคอีสาน , คณะทำงานป่าไม้และที่ดิน สมัชชาคนจน
- งานเพื่อสังคม: เชี่ยวชาญการยกระดับโรงเรียนขนาดเล็กและสิทธิทางการศึกษาในภาคอีสาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “ลดความเหลื่อมล้ำ” ของพรรคประชาชน ถือเป็นความน่าเชื่อถือทางวิชาการและการเป็น “ตัวจริง” ของอุดมการณ์พรรคประชาชน ที่เชื่อว่า ดร.อู๊ด จะสามารถพูดเรื่องนโยบายการศึกษาและสวัสดิการได้คมชัดกว่านักการเมืองทั่วไป ซึ่งอาจดึงดูดกลุ่ม “Swing Voter” และคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง
จุดเชื่อมโยง “คอนเนคชั่นอุดมการณ์”: สายตรงเลขิธิการพรรค หัวใจสำคัญที่ทำให้ รศ.ดร.ธีระพล ได้รับความไว้วางใจ คือ “ความเชื่อมั่นในสายธารการต่อสู้” มีความเชื่อมโยงอย่างแนบแน่นกับ คุณศรายุทธ์ ใจหลัก (เลขาธิการพรรคประชาชน) และกลุ่มแกนนำหลักของพรรคผ่านเครือข่าย สนนท.
- การที่ทั้งคู่เคยผ่านบทบาท ผู้ประสานงาน และ”เลขาธิการ สนนท.” มาเหมือนกัน (ต่างวาระ) ทำให้มีภาษาทางการเมืองและวิธีคิดแบบยุทธศาสตร์ที่ตรงกัน
- พรรคประชาชนในยุคปัจจุบันมุ่งเน้นการใช้ “มันสมอง” เข้าไปปฏิรูประบบราชการและกฎหมาย การมีนักวิชาการระดับ รศ.ดร. ที่เข้าใจโครงสร้างการศึกษาและท้องถิ่นอีสานอย่างลึกซึ้ง จึงเป็น “อาวุธหนัก” ที่พรรคต้องการมากกว่านักการเมืองสายลงพื้นที่ และมวลชนเพียงอย่างเดียว
ยุทธศาสตร์ “พรรคประชาชน”: ทำไมวิชาการถึงชนะใจพรรค? การที่ ดร.ธีระพล เบียดเอาชนะวิศรุตได้ สะท้อนการปรับทิศทางครั้งใหญ่ของพรรค:
- นโยบายนำตัวบุคคล: พรรคมั่นใจว่า “แบรนด์พรรค” และ “นโยบายที่เฉียบคม” สามารถชนะได้แม้ตัวผู้สมัครจะไม่ได้ทำพื้นที่มานานเท่าอดีต สส.
- คุณภาพนิติบัญญัติ: พรรคต้องการยกระดับผู้สมัครให้เป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่สามารถอภิปรายและร่างกฎหมายได้ทันที เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในสภา
- ความซื่อตรงต่ออุดมการณ์: การเป็นนักวิชาการที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยมาตลอด 30 ปี ทำให้พรรคมั่นใจในเรื่อง “งูเห่า” หรือการขายวิญญาณทางการเมือง
การลาออกของวิศรุต… ผลพวงจากการพ่ายแพ้ในกติกาใหม่ เมื่อพรรคตัดสินใจเลือก “ดร.อู๊ด” ด้วยคะแนนนำทางยุทธศาสตร์และการยอมรับจากส่วนกลาง ทำให้นายวิศรุต สวัสดิ์วร ซึ่งแม้จะมีฐานเสียงเดิมแต่ไม่ตอบโจทย์ “New Standard” ของพรรคในรอบนี้ ต้องหาบ้านใหม่เพื่อสานต่อบทบาทนักการเมืองพื้นที่ ในการชูโรง ในพื้นที่ที่คาดหวัง การย้ายไปพรรคไทยสร้างไทยจึงเป็นทางเลือกใหม่ หลังจากพ่ายแพ้ในการแข่งขันทักษะการเมืองภายในพรรคประชาชนนั่นเอง แต่ที่สำคัญ ผู้คนและการเดินทาง ย่อมมีทั้งผู้เข้า และผู้ออก เพื่อสืบเจตนารมณ์ของพรรคว่า จะไม่มีใครยึดติดกับอำนาจและหน้าที่ ทุกๆ คน สามารถขึ้นมาทดแทนกันได้เสมอ พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค หากอุดมการณ์และวิธีการยังสอดคล้องกัน ก็จะสามารถร่วมเดินทางกันไปได้ยาวๆ ถ้าคุณนิ่งพอ อดทนได้ และมั่นคงในอุดมการณ์.

อ่านข่าวอื่น ๆ :
- เจาะลึกยุทธศาสตร์ “ปัญญาชนนำการเมือง”: เมื่อ รศ.ดร.ธีระพล เบียดครูอ๊อฟ อดีตผู้สมัครเดิมคว้าธง ‘พรรคประชาชน’ อุบลฯ
- สาวน้อยผู้แย่งชิง เมื่อพ่อชูวิทย์ วางยุทธศาตร์เพื่อความอยู่รอด
- ยอมรับการซื้อเสียง สังคมไทยยังไม่พร้อมพัฒนา: เมื่อ ‘เงิน’ ซื้อ ‘อนาคต’ และกฎหมายที่ไร้เขี้ยว
- เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่ม 500 ล้านบาท สร้างปรากฎการณ์ Entertainment Countdown ทั่วประเทศ ดีที่สุดตลอดกาล เซ็นทรัลเวิลด์ Times Square of Asia
- เจาะลึกขบวนการ ‘สกัดขา’ และผู้ชนะบนกระดานอำนาจสีกากี

