หากย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อน ถ้าพูดถึง “บุรีรัมย์” ภาพจำของคนส่วนใหญ่คือเมืองทางผ่านในภาคอีสานที่แห้งแล้ง หรืออย่างมากก็รู้จักแค่ “ปราสาทหินพนมรุ้ง” แต่ในวันนี้ บุรีรัมย์กลายเป็นหมุดหมายสำคัญบนแผนที่โลก เป็นเจ้าภาพ MotoGP, มีสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่า และเศรษฐกิจสะพัดระดับหมื่นล้าน

คำถามคือ “เมืองรอง” ที่ไม่มีต้นทุนทางธรรมชาติอย่างทะเลหรือภูเขา พลิกโฉมตัวเองได้อย่างไร? นี่คือ 5 ปัจจัยความสำเร็จของ Buriram Model
1. Visionary Leadership: เปลี่ยน “จุดด้อย” ให้เป็น “จุดขาย”
จุดเริ่มต้นสำคัญคือวิสัยทัศน์ของผู้นำ (คุณเนวิน ชิดชอบ) ที่กล้ายอมรับความจริงว่า “บุรีรัมย์ไม่มีทะเล ไม่มีภูเขา ไม่มีน้ำตก” ดังนั้นการจะดึงดูดคน ต้องสร้าง “Man-made Attractions” หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น
- กลยุทธ์: เลือกใช้ “กีฬา” (Sport) เป็นหัวหอกนำการท่องเที่ยว เพราะกีฬาสร้าง Passion, สร้าง Community และที่สำคัญคือ “ดึงคนจำนวนมากมาอยู่ในที่เดียวกันได้”
- ผลลัพธ์: เกิดเป็น Chang Arena และ Chang International Circuit ที่ไม่ได้เป็นแค่สนามกีฬา แต่เป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยว
2. Standard & Scale: ถ้าจะทำ ต้องทำให้ “สุด” และได้ “มาตรฐานโลก”
บุรีรัมย์ไม่ได้สร้างแค่สนามฟุตบอลประจำจังหวัด หรือสนามแข่งรถธรรมดา แต่สร้างด้วยมาตรฐานสูงสุด
- Chang Arena: สนามฟุตบอลมาตรฐาน FIFA แห่งแรกๆ ที่ไม่มีลู่วิ่งกั้น (Football Stadium) จุคนได้มหาศาล
- Chang International Circuit: สนามแข่งรถระดับ FIM Grade A แห่งเดียวในไทย และระดับ FIA Grade 1 ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวที่รองรับ Formula 1 และ MotoGP ได้
- ปัจจัยความสำเร็จ: การทำถึงระดับ Global Standard ทำให้บุรีรัมย์ “ผูกขาด” การจัดอีเวนต์ระดับโลกในไทยโดยปริยาย เพราะไม่มีที่อื่นรองรับได้
3. Event-Driven Economy: ใช้ “อีเวนต์” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตลอดปี
การมีสนามดีแต่ไม่มีคนใช้ คือหายนะของการลงทุน บุรีรัมย์แก้โจทย์นี้ด้วยการบริหารจัดการปฏิทินกิจกรรม (Event Calendar) ให้แน่นตลอดปี
- รายสัปดาห์: ฟุตบอลไทยลีก (ดึงคนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง)
- รายปี: งานประเพณีสงกรานต์, งานปีใหม่, งานกาชาด (ดึงคนระดับภูมิภาค)
- ระดับโลก: MotoGP, GT World Challenge, Asia Road Racing (ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติและกำลังซื้อสูง)
- ผลลัพธ์: โรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า และ Street Food มีลูกค้าหมุนเวียนตลอด ไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาล
4. Brand Loyalty & Local Pride: พลังของ “คนบุรีรัมย์”
โมเดลนี้จะสำเร็จไม่ได้ถ้าคนในพื้นที่ไม่เอาด้วย สิ่งที่บุรีรัมย์ทำได้ดีที่สุดคือการสร้าง “ความรู้สึกเป็นเจ้าของ” (Sense of Ownership)
- เราจะเห็นคนบุรีรัมย์ใส่เสื้อทีมฟุตบอลเดินไปทุกที่จนเป็นเรื่องปกติ
- คนในพื้นที่พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี (Host) ในช่วงงานใหญ่อย่าง MotoGP ราคาของกินที่พักมีการควบคุมไม่ให้เอาเปรียบนักท่องเที่ยวมากเกินไป (แม้อาจมีปรับขึ้นบ้างตามกลไก แต่ภาพรวมยังรับได้)
- สิ่งนี้สร้าง Brand Loyalty ที่แข็งแกร่ง แฟนบอลกลายเป็น Brand Ambassador ที่ดีที่สุดของจังหวัด
5. Ecosystem Development: การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานที่สอดรับกัน
เมื่อมี “แม่เหล็ก” ดึงคนมาแล้ว ภาคเอกชนและรัฐในท้องถิ่นก็ขยับตัวรับลูกทันที
- โรงแรม: จากที่มีไม่กี่แห่ง ขยายตัวเป็นพันๆ ห้อง ตั้งแต่โฮสเทลยันโรงแรมหรู
- คมนาคม: สนามบินบุรีรัมย์ได้รับการปรับปรุง ถนนหนทางขยายเป็น 4 เลนเชื่อมต่อเมืองหลัก เพื่อรองรับ Traffic มหาศาล
- เศรษฐกิจชุมชน: สินค้า OTOP, ผ้าไหมบุรีรัมย์, ลูกชิ้นยืนกิน ถูกนำมาผูกโยงกับอีเวนต์กีฬา สร้างรายได้กระจายสู่ฐานราก
Buriram Model สอนให้รู้ว่า “ทำเล” (Location) ไม่ใช่ข้อจำกัด ถ้ามี “วิสัยทัศน์” (Vision) และ “การจัดการ” (Management) ที่ดีพอ
ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากแค่การสร้างสิ่งก่อสร้าง แต่คือการสร้าง "ระบบนิเวศ" (Ecosystem) ที่เอา "กิจกรรม" มาใส่ในสิ่งก่อสร้างนั้น เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของมนุษย์และเม็ดเงินอย่างยั่งยืน

อ่านข่าวอื่น ๆ :

