ครบ 1 ปี บนเก้าอี้ “พิทักษ์ 1” อย่างเป็นทางการ (ต.ค. 2567 – พ.ย. 2568) ของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ “บิ๊กต่าย” ถือเป็นหนึ่งปีที่ผู้นำตำรวจต้องเผชิญบททดสอบที่หนักหน่วงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ สตช. เขาไม่ได้เข้ารับตำแหน่งในสภาวะปกติ แต่ก้าวขึ้นมาท่ามกลาง “มหากาพย์” ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนองค์กร ระหว่าง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล

การประเมินผลงานของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ จึงไม่สามารถวัดได้แค่ตัวเลขการจับกุม แต่ต้องวัดด้วยเดิมพันที่สูงกว่านั้น: เขาสามารถ “ลบภาพ” ข้อครหาว่าเป็นผู้ที่ได้รับตำแหน่งมาท่ามกลางความแตกแยก และสามารถกอบกู้ “ศรัทธา” ของประชาชนกลับคืนมาได้หรือไม่ ท่ามกลางเสียงสะท้อนว่าอาชญากรรม โดยเฉพาะภัยออนไลน์ ยังคงรุนแรง
TopicThailand ชวนวิเคราะห์ “สงครามสองแนวรบ” ที่ ผบ.ตร. กิตติ์รัฐ ต้องเผชิญตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
แนวรบที่ 1: “เงาบิ๊กโจ๊ก” จากคู่แข่งภายใน สู่ผู้วิจารณ์ภายนอก
คำถามแรกที่สังคมตั้งไว้คือ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ จะจัดการมรดกความขัดแย้งที่เขาไม่ได้ก่อได้อย่างไร
หากย้อนกลับไปในช่วงที่เขายังเป็น รรท.ผบ.ตร. สถานการณ์ยังคงคุกรุ่น แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในยุคที่เขาเป็น ผบ.ตร. เต็มตัว คือการลงนามในคำสั่ง “ไล่ออกจากราชการ” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ในช่วงเดือนมีนาคม 2568
การตัดสินใจนี้ แม้จะอ้างอิงตามผลการสอบสวนทางวินัย แต่ในทางการเมืองภายในองค์กร นี่คือการ “ปิดเกม” ความขัดแย้งในฐานะ “คู่แข่งภายใน” อย่างเด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ได้เปิด “แนวรบใหม่”
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ไม่ได้หายไป แต่เปลี่ยนสถานะเป็น “ผู้วิจารณ์ภายนอก” ที่ยังคงเคลื่อนไหวผ่านกระบวนการทางกฎหมาย เช่น การยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง หรือแม้แต่การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของ สตช. ชุดปัจจุบันโดยตรง ดังเช่นกรณีการวิจารณ์การปราบปรามสแกมเมอร์
ท่าทีของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ต่อแนวรบนี้คือการ “ไม่ตอบโต้” โดยตรง โดยระบุว่าตนเองมุ่งเน้นการแก้ปัญหาอาชญากรรมที่กระทบประชาชนมากกว่า และน้อมรับคำวิจารณ์เพื่อนำไปพัฒนา
บทสรุปแนวรบที่ 1: พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ไม่ได้ “ลบ” เงาของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แต่เขา “เปลี่ยน” สถานะของเงา จากความขัดแย้งภายในที่บั่นทอนองค์กร ให้กลายเป็นเสียงวิจารณ์จากภายนอกที่เขาเลือกจะไม่ปะทะด้วย และหันไปสู้ในแนวรบที่ 2 เพื่อใช้ “ผลงาน” เป็นคำตอบ
แนวรบที่ 2: สงครามสถิติ กับ “ความรู้สึก” ของประชาชน
ในขณะที่การเมืองภายในถูกจัดการ แนวรบหลักที่แท้จริงคือการปราบปรามอาชญากรรมที่ประชาชนต้องเผชิญทุกวัน โดยเฉพาะยาเสพติดและภัยออนไลน์ ซึ่งเป็นข้อครหาหลักว่า “เหตุใดตัวเลขจึงสูงขึ้น”
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ใช้กลยุทธ์ “การบริหารจัดการด้วยสถิติ” (Management by Statistics) โดยมีการแถลงผลงานเชิงรุก เพื่อสร้างการยอมรับเชิงประจักษ์
ข้อมูลล่าสุดจากรายงานผลงานในรอบ 1 เดือน (5 ต.ค. – 5 พ.ย. 2567) ที่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ นำเสนอ ได้ฉายภาพความพยายามนี้อย่างชัดเจน:
- คดีอาญา 5 กลุ่ม (อุกฉกรรจ์, ชีวิต/ร่างกาย, ทรัพย์ ฯลฯ): เกิดขึ้น 43,973 คดี สามารถจับกุมได้ถึง 39,850 คดี (คิดเป็น 90%)
- ยาเสพติด: จับกุมคดีร้ายแรง 10,970 คดี ยึดยาบ้า 59 ล้านเม็ด และไอซ์ 2,600 กก.
- อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ภัยออนไลน์): รับแจ้งความ 37,320 เรื่อง เสียหาย 3.3 พันล้านบาท สามารถอายัดบัญชีได้ 385 ล้านบาท
- การค้ามนุษย์ และ หนี้นอกระบบ: มีการดำเนินการจับกุมและไกล่เกลี่ยอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขเหล่านี้คือ “หลักฐานเชิงประจักษ์” ที่ สตช. ใช้นำเสนอว่ากำลังทำงานอย่างหนัก และมีอัตราการจับกุม (Detection Rate) ที่สูงมากถึง 90% ในคดีอาญาทั่วไป
“พาราด็อกซ์” ของสถิติอาชญากรรม: ทำไมคนยังรู้สึกไม่ปลอดภัย?
ประเด็นสำคัญที่ TopicThailand พบคือ “ความขัดแย้ง” ระหว่างสถิติทางการกับความรู้สึกของประชาชน (Perception) โดยเฉพาะคำถามว่า “ทำไมอาชญากรรมถึงสูงขึ้น”
เมื่อเจาะลึกไปที่ “อาชญากรรมออนไลน์” ซึ่งเป็นภัยที่คนสัมผัสมากที่สุด เราพบข้อมูลที่น่าสนใจ:
- ความเสียหาย “ลดลง”: ข้อมูลจาก บช.สอท. ที่ Thai PBS Verify รายงาน ระบุว่า แม้ไตรมาสแรกของปี 2568 จะมีคดีสูงถึง 75,728 เรื่อง แต่ “มูลค่าความเสียหายเฉลี่ยต่อวัน” ในเดือน ก.พ. 68 อยู่ที่ 65 ล้านบาท/วัน ซึ่ง ลดลง 45% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2567 (117 ล้านบาท/วัน)
- คดีปี 67 “ลดลง”: ข้อมูลจาก NBT ยังระบุด้วยว่า สถิติอาชญากรรมออนไลน์ในปี 2567 (ตลอดทั้งปี) ลดลง 21.74%
นี่คือ “พาราด็อกซ์” (Paradox) ที่เกิดขึ้น: ในขณะที่ตำรวจสามารถลด “มูลค่า” ความเสียหาย และ “จำนวนคดี” (ในปี 67) ลงได้ แต่ “ปริมาณ” การรับแจ้งความรายวัน (Volume) ที่ยังคงสูง (37,320 เรื่องใน 1 เดือน) ทำให้ประชาชน “รู้สึก” ว่าภัยนี้ยังอยู่รอบตัวและรุนแรงขึ้น
สาเหตุที่คนรู้สึกว่าอาชญากรรมสูงขึ้น จึงอาจไม่ได้มาจาก “สถิติ” ที่เพิ่มขึ้น แต่มาจาก “การเข้าถึง” ของอาชญากรรม (Accessibility) ที่ง่ายขึ้นผ่านโลกออนไลน์ และ “ช่องว่าง” ของการรายงานข่าว (Media Gap) ที่เน้นความเสียหายรายวัน มากกว่าภาพรวมสถิติที่ลดลง
บทสรุป: ผู้นำในยุค “จัดการสถิติ”
หนึ่งปีของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ คือการพิสูจน์ตัวตนในฐานะ “ผู้นำยุคเปลี่ยนผ่าน” ที่ต้องแบกรับทั้งมรดกความขัดแย้งและการปฏิรูปองค์กร
เขาลบภาพข้อครหาได้หรือไม่? คำตอบคือ เขาไม่ได้ “ลบ” แต่เขา “กลบ” มันด้วยการทำงานเชิงรุก เขาเลือกที่จะปิดเกมการเมืองภายในอย่างเด็ดขาด และหันมาใช้ “สถิติ” และ “ผลงาน” เป็นเกราะป้องกันและอาวุธในการสร้างการยอมรับ
ผลงานเป็นที่ยอมรับเชิงประจักษ์หรือไม่? ในเชิง “สถิติ” ถือว่าประจักษ์ สตช. ภายใต้การนำของเขาสามารถแสดงตัวเลขการจับกุมที่สูง (90%) และลดมูลค่าความเสียหายจากภัยออนไลน์ลงได้จริง
แต่ในเชิง “ความรู้สึก” ของประชาชน นี่คือการบ้านข้อใหญ่ที่ยังต้องทำต่อไป ตราบใดที่ประชาชนยังต้องรับสายสแกมเมอร์ทุกวัน หรือยังกังวลเรื่องยาเสพติด ตราบนั้น “สถิติ” ก็ยังไม่อาจเอาชนะ “ความรู้สึก” ได้อย่างสมบูรณ์
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาคือ “นักบริหาร” ที่ใช้ข้อมูลและการจัดการเพื่อคุมองค์กร แต่ความท้าทายที่แท้จริงหลังจากนี้ คือการทำให้ “ตัวเลข” ที่สวยงามในรายงาน ส่งผลเป็น “ความปลอดภัย” ที่ประชาชนสัมผัสได้จริงในชีวิตประจำวัน.
แหล่งอ้างอิง (สำหรับใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย):
- (1.1) “เปิดผลงาน 1 เดือน ‘บิ๊กต่าย’ รุกขับเคลื่อนป้องปราบอาชญากรรม 5 ด้านหลัก” (5 พ.ย. 2567). เดลินิวส์. อ้างอิงจาก:
https://www.dailynews.co.th/news/4043615/ - (2.1) “ผบ.ตร. มีคำสั่งไล่ออก ‘บิ๊กโจ๊ก’ งดบำเหน็จบำนาญ | ทันข่าว | 11 มี.ค. 68”. (11 มี.ค. 2568). YouTube (Thai PBS). อ้างอิงจาก:
https://www.youtube.com/watch?v=BvzQrPtv3BY - (2.3) “บิ๊กต่าย ลั่นไม่ตอบโต้บิ๊กโจ๊ก ปมแจ้ง 157 แจงสั่งเด้งตร.-ตั้งกก.สอบ หวังกลับสู่การเป็นคนดี”. มติชน. อ้างอิงจาก:
https://www.matichon.co.th/local/news_5045678 - (2.4) “‘บิ๊กต่าย’ ชี้เป็นสิทธิของ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ร้องศาลปกครองสูงสุดขอความเป็นธรรม ยันไม่กังวล”. (17 ก.ค. 2568). ผู้จัดการออนไลน์. อ้างอิงจาก:
https://mgronline.com/crime/detail/9680000067417 - (2.5) “ผบ.ตร.ขอ ‘บิ๊กโจ๊ก’ มอบข้อมูลให้ตำรวจ ปมนักการเมือง-ขรก.เอี่ยวสแกมเมอร์”. (29 ต.ค. 2568). Thai PBS. อ้างอิงจาก:
https://www.thaipbs.or.th/news/content/358029 - (3.1) “เปิดสถิติอาชญากรรมออนไลน์ ปี 67 ลดลง ข่าวค่ำ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568”. (9 ก.พ. 2568). YouTube (NBT2HD). อ้างอิงจาก:
https://www.youtube.com/watch?v=2k63x_NzHrY - (3.2) “เปิดสถิติ 5 อันดับคดีออนไลน์ ที่คนไทยถูกหลอกมากสุด ปี 68”. (1 เม.ย. 2568). Thai PBS Verify. อ้างอิงจาก:
https://www.thaipbs.or.th/verify/article/content/976 - (5.1) “เกี่ยวกับเรา – topic thailand”. (เข้าถึง 12 พ.ย. 2568). topicrecentthailand.com. อ้างอิงจาก:
https://topicrecentthailand.com/?page_id=85

อ่านข่าวอื่น ๆ :
- วิเคราะห์ 1 ปี ‘ผบ.ตร. กิตติ์รัฐ’ สถิติจริงสวนทาง ‘อาชญากรรมพุ่ง’? เดิมพันลบเงา ‘บิ๊กโจ๊ก’
- เสียงอันตรายจากชายแดน สัญญาณเตือนดังว่า “มันไม่จบง่าย”
- 3 ปี พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 “ปฏิรูปตำรวจ” ล้มเหลวซ้ำซาก หรือแค่ “ละครน้ำเน่า” ที่ผู้มีอำนาจไม่เคยคิดจะเปลี่ยน
- ยืนหนึ่ง! Major Cineplex กวาด 3 รางวัล IAA Awards 2025 ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน! CEO-CFO-IR ย้ำผู้นำบันเทิงโปร่งใสและยั่งยืน
- ฮัดสันชี้แจงเหตุผลเรียก “อิคลาส-ปรเมศย์” เสริมทัพช้างศึก! เตรียมฟัดสิงคโปร์-ศรีลังกา ย้ำชัด “เวลาไม่ใช่ข้ออ้าง”

