“โยชิ รินรดา ฐิระภา” ไอคอนสาวประเภทสองที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตในรายการ Prime Cast สัปดาห์ล่าสุด ตั้งแต่ภูมิหลังที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ไปจนถึงการเดินทางเพื่อค้นหาความงามและการปลดล็อกชีวิตหลังพ้นจากกรอบของตำแหน่งนางงาม
ฐานะ “ลูกหลานแม่บ้าน” ย่านทองหล่อ: ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสู้
แม้จะเติบโตในย่านทองหล่อ และเรียนในโรงเรียนใกล้ BTS แต่โยชิเผยว่าความจริงแล้วเธอคือ “ลูกหลานแม่บ้าน” ที่อาศัยอยู่ในบ้านเจ้านาย แม้จะได้รับความเมตตาจากเจ้านายที่ส่งเสียให้เรียนพิเศษ แต่ชีวิตในวัยเด็กนั้นผูกพันกับการช่วยเหลือดูแลเจ้านาย เช่น การชงวิสกี้ หรือตั้งโต๊ะเสิร์ฟอาหาร ซึ่งหล่อหลอมให้เธอเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งและสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก
จุดเริ่มต้นของการเป็น “ผู้หญิง” และความเข้าใจผิดเรื่องฮอร์โมน
โยชิ เริ่มค้นพบตัวเองและตัดสินใจเปิดเผยตัวตนว่าเป็นสาวประเภทสองในช่วงมัธยมศึกษาตอนต้น จากการได้รับคำชมเรื่องหน้าตาที่ดีและการได้ทำกิจกรรมในโรงเรียน
จุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการเริ่ม เทคฮอร์โมน อย่างผิดวิธีตั้งแต่อายุประมาณ 14 ปี โดยได้รับคำแนะนำแบบผิด ๆ จากรุ่นพี่ ซึ่งเป็นยุคที่ข้อมูลยังไม่แพร่หลาย เธอเคยรับประทานยาคุมกำเนิดถึงวันละ 2-4 เม็ด และเริ่มฉีดฮอร์โมน เนื่องจากเข้าใจว่า “ยิ่งกิน ยิ่งฉีดเยอะ ยิ่งสวย”
“เอฟเฟคตอนนั้นรู้สึกว่าเรียนไม่รู้เรื่อง… กระดูกผิดปกติเวลาเดินยินเสียงก็อบแก๊บในร่างกายตลอดเวลา เหมือนกระดูกไม่แข็งแรง” โยชิ เล่าถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เธอต้องหยุดและเริ่มศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการสวยอย่างปลอดภัย โชคดีที่เธอสามารถกลับมาดูแลตัวเองได้ทัน
ปลดล็อกภาพลักษณ์ “มิสทิฟฟานี” และการใช้ชีวิตแบบ “ปล่อยจอย”
หลังจากคว้าตำแหน่งมิสทิฟฟานี (Miss Tiffany’s Universe) โยชิ ยอมรับว่าเธอมี “คำว่านางงามตีกรอบ” ทำให้ต้องรักษาภาพลักษณ์เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน แต่ในช่วงโควิด-19 ที่ชีวิตถูกล็อกดาวน์ ทำให้เธอคิดได้ว่าควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
หลังสถานการณ์คลี่คลาย โยชิได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองแบบ “ไม่แอ๊บ” ทั้งการไปเที่ยวร้านเหล้า ปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้ผู้คนได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ และเข้าใจว่าเธอเองก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ชอบเข้าสังคม
การรักษารูปร่างและออร่าที่ต้องแลกมา
ปัจจุบัน โยชิเริ่มมีการปรับเรื่องการกิน โดยลดหวาน ลดของทอดและมัน และหันมาเลือกกินอาหารคลีนหรือควบคุมปริมาณมากขึ้น พร้อมทั้งมีการออกกำลังกายแบบเบา ๆ แต่ทำทุกวัน เช่น เต้นตาม YouTube หรือเล่นบอดี้เวทหน้าท้อง/ขาเพียง 10-30 นาที ซึ่งทำให้รู้สึกถึงความสำเร็จเล็ก ๆ ในแต่ละวัน
สำหรับเทคนิคออร่าพุ่ง โยชิเผยว่ามันคือการ ยอมแลกความสุขเล็ก ๆ เพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า คือการใช้เวลาเตรียมตัว 2 ชั่วโมงเพื่อให้มั่นใจตลอดทั้งวัน “หนูยอมที่จะแลกกับความสุขเล็กๆที่เสียไป (เช่นความเหนื่อยจากการเตรียมตัว) เพื่อที่จะแลกกับความสุขใหญ่ๆ (ความมั่นใจตลอดทั้งวัน) มันคุ้ม”
มุมมองความรัก: ห่วงความโสดที่หาได้ยาก
แม้จะพยายามเปิดใจและอยากมีใครสักคนไว้แบ่งปันเรื่องราว แต่โยชิยอมรับว่าเธอ “แฮปปี้กับการเป็นโสดมากๆ” และเริ่ม “ห่วงเวลาโสด” ของตัวเอง เพราะการอยู่คนเดียวทำให้เธอมีเวลาโฟกัสกับชีวิต ได้เดินทาง และใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ หากจะมีใครเข้ามา คนนั้นต้องเป็นคนที่เข้าใจและคลิกกันจริง ๆ ไม่ทำให้เธอต้องเสียเวลาหรือความสุขจากการทำงานหนักของเธอไป.
สามารถติดตาม "PrimeCast" ได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , Youtube : Alive Dot วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น.
อ่านข่าวอื่น ๆ :
- สานฝัน 30 ปี! ‘อาร์ต วศิน’ ผู้บริหารรถไฟฟ้าสายสีแดง สู่ศิลปินเบอร์แรกค่าย ‘ALLEY 1 RECORDS’
- “โค้ชเช” ตั้งเป้า 1 ทอง! นำทัพ 10 จอมเตะไทย ลุยศึกชิงแชมป์โลก 2025 ที่อู๋ซี
- เหลือ 50 วัน! “ดร.ก้องศักด” การันตี 3 จังหวัดเจ้าภาพซีเกมส์พร้อม 100% ชู 50 กีฬาสากลยกระดับมาตรฐาน
- สถิติใหม่ 5 วินาที! ศึกบอล 7HD รอบ 256 ทีม: ดราม่าจุดโทษ และฟอร์มเทพที่ต้องจับตา
- แต่งผีไทยมาวิ่ง! “พี่ยักษ์” ณเดชน์ คูกิมิยะ ร่วมเซอร์ไพรส์ เปิดเส้นทาง 5.5 กม. เช็กอิน 10 จุดหลอน unseen ในคืน 25 ต.ค.