ปิดตำนาน “ไอ้ทอง” จระเข้เฝ้าบ้าน 30 ปี เจ้าของร่ำไห้ เตรียมสตัฟฟ์ร่างเก็บไว้เคียงข้างตลอดไป

พิษณุโลก – สิ้นสุดการเดินทางของเพื่อนร่วมชีวิตที่ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ “ไอ้ทอง” จระเข้เฝ้าบ้านในตำนานของจังหวัดพิษณุโลก ได้จากไปอย่างสงบในวัย 30 ปี สร้างความโศกเศร้าให้กับครอบครัว “นาทิพย์” ผู้เลี้ยงดูด้วยความรักและความผูกพันมาตั้งแต่ยังเป็นลูกจระเข้ตัวเล็กๆ

เมื่อเช้าวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา บรรยากาศภายในบ้านเลขที่ 1079 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เต็มไปด้วยความเงียบเหงาและเศร้าสร้อย นายปวิรศ นาทิพย์ ลูกชายเจ้าของบ้าน เผยทั้งน้ำตาว่ารู้สึกเหมือนสูญเสียพี่น้องคนหนึ่งไป “ไอ้ทอง” ถูกเลี้ยงมาตั้งแต่เขายังเด็ก โดยครอบครัวเลือกที่จะเลี้ยงแบบอิสระ ไม่ได้ขังไว้ในบ่อเหมือนจระเข้ทั่วไป ทำให้ไอ้ทองเดินเล่นไปทั่วบ้านราวกับเป็นสมาชิกในครอบครัวตัวหนึ่ง

จากนักล่าสู่เพื่อนคู่ใจ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “ไอ้ทอง” มีนิสัยชอบเดินเล่นสำรวจรอบๆ บ้าน บางครั้งก็ออกไปหน้าบ้านจนเป็นภาพที่คุ้นตาของคนในละแวกนั้น แม้จะเป็นสัตว์นักล่า แต่ไอ้ทองไม่เคยทำร้ายใครเลย นอกจากจะส่งเสียงขู่เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้

เมื่อ 10 ปีก่อน “ไอ้เงิน” คู่หูอีกตัวได้เสียชีวิตลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ เหลือเพียงไอ้ทองที่ยังคงอยู่เคียงข้างครอบครัวต่อไป มันมักจะเดินขึ้นบันไดไปถึงชั้น 2 และเข้าไปนอนในห้องพระ โดยเฉพาะในวันพระ มันจะเข้าไปอยู่ตรงนั้นราวกับรู้เวลานัดหมาย

การจากไปที่แสนเศร้า

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ครอบครัวเริ่มสังเกตว่าไอ้ทองมีอาการป่วย ทั้งไอและกินอาหารน้อยลง จนกระทั่ง 1-2 วันก่อนจะจากไป มันขึ้นมานอนบนบ้านในท่าที่ผิดปกติ จนเช้าวันนั้นก็พบว่ามันได้จากไปอย่างสงบแล้ว ครอบครัวเผยว่าการจากไปครั้งนี้เหมือนการสูญเสียพี่น้องร่วมชีวิตจริงๆ

เพื่อรำลึกถึงความผูกพันและเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ ครอบครัวมีแผนที่จะนำร่างของไอ้ทองไปให้ศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดจังหวัดนครสวรรค์เพื่อทำการ สตัฟฟ์ อย่างประณีต ก่อนจะนำกลับมาเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อให้ไอ้ทองยังคงอยู่เคียงข้างตลอดไป เหมือนที่เคยอยู่ด้วยกันมานานถึง 30 ปี

เรื่องราวของ “ไอ้ทอง” ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องราวของสัตว์เลี้ยง แต่เป็นเรื่องราวของความรักและความผูกพันที่ก้าวข้ามสายพันธุ์ ตอกย้ำว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวมีความหมายต่อคนในครอบครัวเสมอ แม้วันนี้ร่างกายของไอ้ทองจะจากไป แต่เรื่องราวและความทรงจำของมันจะยังคงอยู่ตลอดไปในหัวใจของคนรอบข้าง.

อ่านข่าวอื่น ๆ :

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *