แม้เราจะหวังว่าค่าไฟจะถูกลงในยุคพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีทันสมัย แต่ความจริงอาจสวนทางกับความคาดหวัง เพราะมีแนวโน้มว่าค่าไฟในประเทศไทยจะ “สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ไปอีก 25 ปีข้างหน้า! แล้วทำไมคนไทยถึงต้องแบกรับค่าไฟแพงแบบนี้? ใครคือผู้ได้ประโยชน์? และเราจะมีทางรอดอย่างไร?
1. โครงสร้างต้นทุนที่ผูกกับ “ก๊าซฟอสซิล”
แม้โลกจะมุ่งสู่พลังงานสะอาด แต่ไทยยังคงพึ่งพาพลังงานจาก “ก๊าซธรรมชาติ” ถึงกว่า 60% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งราคาก๊าซในตลาดโลกผันผวนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะยาว อีกทั้งแหล่งก๊าซในประเทศก็กำลังจะหมด ทำให้ไทยต้องนำเข้า LNG ซึ่งมีราคาสูงกว่า 2-3 เท่า
2. สัญญาซื้อไฟฟ้าระยะยาว ที่ประชาชนไม่รู้
หลายโครงการผลิตไฟฟ้าในไทยมีการทำสัญญาซื้อขายระยะยาว 20-30 ปี กับเอกชน โดยการันตี “กำไร” ให้ผู้ผลิตไฟฟ้า ไม่ว่าจะผลิตจริงหรือไม่ ประชาชนก็ต้องจ่ายค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment) อยู่ดี ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟไม่ลดลงแม้ความต้องการใช้ไฟไม่ได้เพิ่มตาม
3. ลงทุนโครงข่ายใหม่ – ใครจ่าย?
การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนต้องใช้เงินมหาศาลในการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ซึ่งรัฐผลักภาระให้ประชาชนผ่านค่าไฟ แม้จะเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต แต่ในระยะสั้นคนทั่วไปก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย
4. อุปสงค์ไฟฟ้าไม่โต แต่รัฐยังผลิตเกิน
ปัญหาซัพพลายเกินดีมานด์ยังไม่หมดไป ไทยผลิตไฟเกินความต้องการมาตลอดหลายปี และยังคงเดินหน้าอนุมัติโรงไฟฟ้าใหม่อีกหลายแห่ง ทำให้มีต้นทุนส่วนเกินสะสมซึ่งถูกบวกเข้าไปในบิลค่าไฟของประชาชนโดยตรง
5. พลังงานหมุนเวียนยังไม่ฟรี – และมีต้นทุนแฝง
แม้พลังงานแสงอาทิตย์จะฟรี แต่ต้นทุนการติดตั้ง แบตเตอรี่ และระบบรองรับยังสูง แถมรัฐยังมีนโยบายซื้อไฟในราคาสูงกว่าราคาตลาดเพื่อจูงใจเอกชน ซึ่งสุดท้ายผู้บริโภคก็ยังคงเป็นผู้จ่ายอยู่ดี

สรุปแล้ว ใครได้? ใครเสีย?
ได้
◾กลุ่มทุนด้านพลังงาน
◾ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนที่ทำสัญญาระยะยาว
◾นักลงทุนในพลังงานทางเลือก
เสีย
◾ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
◾SME และอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่แบกรับต้นทุนสูงขึ้น
ความสามารถในการแข่งขันของไทยระยะยาว เราจะทำอะไรได้บ้าง?
- ติดตั้งโซลาร์รูฟในบ้าน เพื่อลดการพึ่งพาไฟจากรัฐ
- เรียกร้องความโปร่งใส ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
- ใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับพฤติกรรมการใช้พลังงาน
อย่าให้ “ค่าไฟ” กลายเป็นภาษีเงียบที่เราต้องจ่ายแบบไม่รู้ตัว!
ถึงเวลาที่คนไทยต้องตั้งคำถาม และจับตานโยบายพลังงานอย่างใกล้ชิด เพราะทุกเม็ดเงินที่คุณจ่าย มีใครบางคน “ได้ประโยชน์” อยู่แน่นอน