ข่าวทั่วไป

ดีเดย์เปิดตัว “Outsourcing Service” ใบอนุญาตทำงานคนต่างด้าว โฉมใหม่!

กรุงเทพฯ – วันที่ 30 ก.ค. 2568 นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการจ้างเหมาเอกชนผลิตใบอนุญาตทำงานและให้บริการรับคำขอและการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว (Outsourcing Service) อย่างเป็นทางการ โดยมีนายจำนงค์ ทรงเคารพ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน กล่าวรายงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้แทนจากภาคเอกชน ร่วมเป็นเกียรติ ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ห้องอัศวิน แกรนด์ บอลรูม B – C ชั้น 4 เพื่อมุ่งยกระดับการให้บริการด้านแรงงานต่างด้าวให้ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับตัวของภาครัฐ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของบริบทแรงงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้การบริการของรัฐสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โปร่งใส ลดต้นทุน และลดภาระในการติดต่อราชการ จึงได้ริเริ่มโครงการ Outsourcing Service นี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการดำเนินภารกิจของกรมฯ ในส่วนที่สามารถถ่ายโอนการให้บริการได้อย่างเหมาะสม ภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่เข้มงวดของภาครัฐ โดยยังคงยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล […]

อ่านต่อ

ไฟเขียว! รัฐเร่งผลักดันกฎหมายโซลาร์ “ผลิตไฟใช้เอง” ได้ง่ายขึ้น ลดค่าไฟ-หนุนพลังงานสะอาด

ครม. ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถติดตั้งระบบโซลาร์ผลิตไฟใช้เองได้ง่ายขึ้น โดยลดขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบราชการที่ยุ่งยาก พร้อมยกระดับความปลอดภัยและมาตรฐาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพลังงาน ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นกฎระเบียบกลางที่ช่วยลดขั้นตอนการขออนุญาตจากหลายหน่วยงาน ทำให้ประชาชนติดตั้งโซลาร์ได้เร็วขึ้น ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ได้แก่ โดยมีเป้าหมายหลัก ช่วยประชาชนลดค่าไฟ สร้างพลังงานทางเลือกที่สะอาด และผลักดันประเทศเข้าสู่ยุคพลังงานแสงอาทิตย์อย่างมีประสิทธิภาพ. อ่านข่าวอื่น ๆ :

อ่านต่อ

น้ำทะลักข้ามแดน! แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก หลังฝนหนัก น้ำสายล้นตลิ่งกลางดึก

ฝนกระหน่ำทั้งฝั่งไทย-เมียนมา ดันมวลน้ำจากรัฐฉานทะลักล้นแม่น้ำสายตั้งแต่ตีสาม เข้าท่วมชุมชนชายแดนไทย-เมียนมา ชาวบ้านแม่สาย-ท่าขี้เหล็กหนีจ้าละหวั่น ด่านชายแดนเตรียมปิดชั่วคราวเพื่อเคลียร์สิ่งกีดขวางน้ำ วันนี้ (28 ก.ค. 2568) ฝนตกหนักต่อเนื่องทั้งในเขตภาคเหนือของประเทศไทยและฝั่งรัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา ส่งผลให้แม่น้ำสายซึ่งมีต้นน้ำจากฝั่งเมียนมาเอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนทั้งใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ของเมียนมาตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. น้ำไหลทะลักผ่านแนวกั้นชั่วคราวของกรมการทหารช่าง เข้าท่วมชุมชนสายลมจอย ชุมชนเกาะทราย และตลาดสายลมจอย บริเวณใกล้สะพานมิตรภาพไทย–เมียนมา แห่งที่ 1 ก่อนจะทะลักต่อไปยังตลาดไม้ลุงขน ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำกันอลหม่าน ไม่คาดคิดว่าน้ำจะฝ่าแนวกั้นได้อีกครั้ง คล้ายกับเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2567 โดยทางฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ก็ไม่ต่างกัน มวลน้ำทะลุแนวพนังกั้นไหลเข้าท่วมบ้านปงถุน และตลาดท่าล้อ ขณะเดียวกัน ระดับน้ำที่วัดได้ที่บ้านโจตาดา จ.ท่าขี้เหล็ก อยู่ที่ 118.8 มิลลิเมตรภายในเช้าวันนี้ และมวลน้ำจำนวนมากดังกล่าวคาดว่าจะเดินทางมาถึงฝั่งไทยภายใน 4 ชั่วโมง ระดับน้ำบริเวณสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 พุ่งสูงถึง 115.15% ของตลิ่ง เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองแม่สาย รวมถึงเทศบาลตำบลแม่สาย และตำบลเวียงพางคำ ต้องระดมกำลังเร่งวางกระสอบทรายขนาดใหญ่ […]

อ่านต่อ

จันทบุรี ระทึก! คลื่นมนุษย์กัมพูชานับหมื่นทะลักหน้าด่าน หวิดเหยียบกันตาย

เช้าวันนี้ (27 ก.ค. 68) บริเวณด่านถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เกิดเหตุชุลมุนหนัก เมื่อชาวกัมพูชากว่า 30,000 คน แห่อพยพกลับประเทศ ทะลักแน่นหน้าด่านก่อนเวลาเปิด 09.00 น. พร้อมขนสัมภาระจนพื้นที่โดยรอบกลายเป็นคลื่นมนุษย์ขนาดยักษ์ แม้เจ้าหน้าที่จะเปิดช่องทางเอกสาร Border Pass ผ่านประตูเล็ก แต่ไม่สามารถระบายฝูงชนจำนวนมหาศาลได้ จนต้องประชุมด่วนและตัดสินใจเปิดประตูใหญ่ หน้าด่าน พร้อมแบ่งช่องทางออกเป็น 3 ส่วน เพื่อควบคุมความเป็นระเบียบ และป้องกันเหตุเหยียบกันตาย ระหว่างนั้นพบมีหญิงตั้งครรภ์และเด็กจำนวนมากถูกอนุโลมให้ผ่านก่อนตามหลักมนุษยธรรม รวมถึงมีผู้เป็นลมจากการรอคิวยาว ทางทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือทันที จนถึงเวลา 10.30 น. มีผู้ข้ามพรมแดนกลับประเทศได้แล้วกว่า 20,000 คน ขณะยังมีอีกเกือบ 10,000 คนรอคิว พร้อมรถอีกหลายคันที่ทยอยเดินทางเข้าพื้นที่ หวังทันเวลาก่อนปิดด่านเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ระบุ เร่งอำนวยความสะดวกเต็มที่ หวังไม่ให้มีผู้ตกค้างอีกเหมือนที่ผ่านมา ยืนยันใช้ มาตรการสูงสุด ป้องกันโศกนาฏกรรมซ้ำรอย

อ่านต่อ

ได้เวลาเหล็กบิน! F-16 ผนึกกริพเพน ทะลวง “ภูมะเขือ-เขาพระวิหาร-ตาเมือนธม ” ตัดเกมยิงไกลเขมร

วันนี้ (26 ก.ค.2568) สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงตึงเครียด ล่าสุด กองทัพอากาศไทยส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพนอีก 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ 2 จุด คือ “ภูมะเขือ–เขาพระวิหาร” และ “ปราสาทตาเมือนธม” ภารกิจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ สกัดการโจมตีด้วยอาวุธวิถีโค้ง จากฝั่งกัมพูชา หลังฝ่ายตรงข้ามมีการเคลื่อนไหวเตรียมใช้ปืนใหญ่ยิงใส่พื้นที่ไทย โดยเฉพาะในจุดที่มีกำลังพลไทยตั้งรับอยู่ บริเวณ “ปราสาทตาเมือนธม” ยังพบการตั้งฐานยิงและกำลังพลของกัมพูชาอย่างชัดเจน ซึ่งมีความพยายามยิงเข้ามาในเขตไทยแบบไร้ทิศทาง ผลการปฏิบัติการเป็นไปตามแผน เครื่องบินขับไล่ไทยสามารถทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ก่อนเดินทางกลับฐานอย่างปลอดภัย สำหรับพื้นที่ “ภูมะเขือ” นั้น ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทเขาพระวิหารราว 2.8 กิโลเมตร บนพื้นที่พิพาทราว 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งไทยและกัมพูชา ต่างอ้างสิทธิ์ครอบครองมาตั้งแต่ปี 2554 ฝ่ายไทยยึดแนว “สันปันน้ำ” ตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ของกรมแผนที่ทหาร ขณะที่กัมพูชายึดตามแผนที่ 1:200,000 ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฐานปฏิบัติการของทั้งสองประเทศตั้งประจันหน้ากันอย่างใกล. อ่านข่าวอื่น ๆ :

อ่านต่อ

ข่าวดี! 25 ส.ค.นี้ เปิดลงทะเบียน “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ผ่านแอปฯ ‘ทางรัฐ’ เริ่มใช้จริง 1 ต.ค. 68

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวเช้าวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ว่า รัฐบาลเตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ค่าโดยสารรถไฟฟ้า “20 บาทตลอดสาย” ได้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมนี้ ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ทั้งระบบ iOS และ Android ผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนต้องมี สัญชาติไทย โดยกรอก เลขบัตรประชาชน 13 หลัก พร้อมผูกกับ บัตรโดยสาร Rabbit Card หรือ บัตรเครดิต/เดบิต EMV Contactless (Visa/Mastercard) ที่จะใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้า หากลงทะเบียนเรียบร้อย ระบบจะเปิดใช้งานสิทธิ์โดยอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่ไม่ลงทะเบียน จะยังคงต้องจ่ายค่าโดยสารตามปกติ นายสุริยะ ยืนยันว่า ระบบลงทะเบียน ไม่มีล่มแน่นอน เพราะใช้มาตรฐานเดียวกับโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่เคยรองรับผู้ลงทะเบียนพร้อมกันกว่า 18 ล้านคน และเปิดเผยเพิ่มเติมว่า การลงทะเบียน ไม่มีวันหมดอายุ และทุกคนได้รับสิทธิ์เท่าเทียม มาตรการนี้จะเริ่มใช้งานจริงในวันที่ […]

อ่านต่อ

รอลงอาญาแล้วจบหรือไม่? “แม่น้องเมย” จี้ ผบ.ตร. เอาผิดวินัยรุ่นพี่ยังรับราชการ

แม่ “น้องเมย” เดินหน้าทวงความยุติธรรม! เตรียมร้อง ผบ.ตร. เอาผิดวินัยรุ่นพี่ หลังศาลตัดสินจำคุกแต่รอลงอาญา พร้อมฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากเหตุสูญเสียลูกชายในรั้วเตรียมทหาร วันนี้ 23 ก.ค.2568 มารดาของ “น้องเมย” นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2560 หลังเข้าศึกษาเพียง 5 เดือน เตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบทางวินัยกับรุ่นพี่ 2 ราย ซึ่งปัจจุบันยังรับราชการตำรวจ แม้ศาลจะมีคำพิพากษาว่ากระทำผิดจริง โดยศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นศาลทหารชั้นฎีกา ได้ตัดสินจำคุกจำเลยทั้งสองเป็นเวลา 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท และให้รอลงอาญา 2 ปี โดยตีความคดีนี้เป็น “ความผิดฐานประมาท” ขณะที่ครอบครัวมองว่าเป็นการ “เจตนาทำร้ายร่างกายและจิตใจ” ซึ่งเป็นข้อหาที่มีโทษร้ายแรงกว่า แม้จะเคารพคำตัดสินของศาล แต่ก็เห็นต่างในสาระสำคัญของคดี มารดาของน้องเมยกล่าวว่า ไม่ได้รู้รายละเอียดว่าอดีตรุ่นพี่ทั้งสอง […]

อ่านต่อ

ศาลทหารฎีกา พิพากษาคดี “น้องเมย” สั่งจำคุก 2 รุ่นพี่ 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี – ครอบครัวยังติดใจหลายประเด็น

ปราจีนบุรี – วันที่ 22 ก.ค. 2568 ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 มีคำพิพากษาศาลทหารชั้นฎีกาในคดีการเสียชีวิตของ “น้องเมย” นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ หลังถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ 2 นายเมื่อปี 2560 ศาลมีคำพิพากษาให้ จำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท แต่ ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี โดยระบุว่า “จำเลยยังไม่เคยได้รับโทษ และการลงโทษจำคุกไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเท่ากับให้กลับไปปรับปรุงตัวเพื่อรับราชการรับใช้ชาติ” ครอบครัวของน้องเมย โดย นายพิเชษฐ์ และนางสุกัลยา ตัญกาญจน์ เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง หลังต่อสู้ในคดีนี้ยาวนานกว่า 8 ปี พร้อมเปิดเผยว่า แม้ลูกชายเสียชีวิตไปแล้ว แต่ยังถูกกล่าวหาว่าทำผิดในระบบวินัยของโรงเรียนเตรียมทหาร ทั้งที่ไม่มีโอกาสได้พูดเพื่อปกป้องตัวเอง นางสุกัลยา เผยว่า “ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากกระทรวงกลาโหมหรือกองทัพ อีกฝ่ายไม่เคยแสดงความรับผิดชอบหรือแม้แต่ให้เกียรติครอบครัวเรา […]

อ่านต่อ

รฟฟท. จัดโครงการ CSR  “สายสีแดงร่วมส่งต่อลมหายใจให้น้องหมาน้องแมว” พร้อมมอบเงินสนับสนุน ให้แก่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

กรุงเทพฯ – บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด จัดโครงการ CSR รถไฟฟ้าสายสีแดงร่วมส่งต่อลมหายใจให้น้องหมาน้องแมว พร้อมมอบเงินสนับสนุน เพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่เจ้าของขาดทุนทรัพย์ในการรักษา ให้แก่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า โครงการ “รถไฟฟ้าสายสีแดงร่วมส่งต่อลมหายใจให้น้องหมาน้องแมว” ถือเป็นโครงการที่บริษัทฯ ตั้งใจจัดขึ้น เพื่อสนับสนุนและให้การช่วยเหลือสัตว์ที่ต้องเข้ารับการรักษาเป็นการเร่งด่วน และเจ้าของขาดแคลนงบประมาณในการเข้ารับการรักษา บริษัทฯ จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยยินดีมอบเงินสนับสนุน พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ให้แก่คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน โดยมี อาจารย์นายสัตวแพทย์ เกียรติศักดิ์ ตันเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน และอาจารย์นายสัตวแพทย์ ดร.พายุ ศรีศุภร รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร เป็นผู้รับมอบ  นอกจากนี้ภายในงานยังมีอินฟลูเอนเซอร์ สายสัตว์เลี้ยงชื่อดัง ประกอบด้วย “โอ๊ต” ยูทูบเบอร์ชื่อดังเจ้าของช่อง GuOatFamily , […]

อ่านต่อ

“หลวงปู่ศิลา” เมตตามอบทุน 315 ทุน – หนุนอนาคตเด็กยากไร้กาฬสินธุ์

แม้จะเป็นวันพักรักษาธาตุขันธ์ แต่ “หลวงปู่ศิลา สิริจันโท” ยังเมตตาโปรดลูกหลาน มอบทุนการศึกษา-ชุดอุปกรณ์การเรียนแก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลน พร้อมสนับสนุนงบให้โรงเรียนในตำบลเชียงเครือ รวมยอดช่วยเหลือกว่า 9 หมื่นบาท วันนี้ (14 กรกฎาคม 2568) ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท บ้านแกเปะ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและปลื้มปีติ เมื่อหลวงปู่ศิลา สิริจันโท พระเกจิผู้เปี่ยมเมตตา ได้เมตตาออกมามอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ขาดแคลน แม้จะตรงกับวันจันทร์ ซึ่งโดยปกติท่านจะพักรักษาองค์ธาตุขันธ์ ไม่ออกโปรดญาติโยม คณะศิษยานุศิษย์และคณะกรรมการธรรมอุทยานฯ ได้ร่วมกันจัดพิธีมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนให้กับนักเรียนจาก 3 โรงเรียนในตำบลเชียงเครือ ได้แก่ โรงเรียนเชียงเครือวิทยาคม, โรงเรียนบ้านเหล่าค้อ และโรงเรียนแกเปะราษฎร์นิยม รวมจำนวนทั้งสิ้น 315 ทุน ภายในกระเป๋าอุปกรณ์การเรียน มีซองใส่ทุนการศึกษาๆ ละ 200 บาท พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็น ขนม และเครื่องเขียน นอกจากนี้ ยังมีการมอบเงินสนับสนุนให้กับแต่ละโรงเรียนๆ ละ 10,000 บาท รวมเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ทั้งสิ้น 93,000 […]

อ่านต่อ