ในดินแดนแห่งศรัทธาที่พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลไปกราบไหว้ “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” อย่างเนืองแน่น กลับมีเงามืดซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าเหลือง… เมื่อศรัทธาถูกแปรเปลี่ยนเป็นทุนทรัพย์ และทุนทรัพย์ถูกถ่ายเทสู่ “วงจรอุบาทว์” ของการพนันออนไลน์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ตอกย้ำความยุติธรรมด้วยการสั่งยึดทรัพย์ “พระธรรมวชิรานุวัตร” หรือ “อดีตพระแย้ม” ครั้งมโหฬาร นี่ไม่ใช่แค่คดีทุจริตธรรมดา แต่คือบทเรียนราคาแพงของวงการสงฆ์ไทย

1. เปิดกรุของกลาง: จากรถหรูสู่บัญชีนอมินี จากการตรวจสอบคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย. 279/2568 ของ ปปง. พบรายการทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดจำนวน 205 รายการ รวมมูลค่าประเมินกว่า 41,680,209.61 บาท สิ่งที่น่าตกใจคือรายการทรัพย์สินเหล่านี้สะท้อนรสนิยมทางโลกที่ขัดต่อสมณสารูปอย่างสิ้นเชิง
- ยานพาหนะหรู: รถยนต์ Mercedes-Benz, Toyota Alphard และ BMW ซึ่งไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับกิจของสงฆ์
- อสังหาริมทรัพย์: ที่ดินและห้องชุด (คอนโดมิเนียม)
- ทรัพย์สินมีค่า: เครื่องประดับ พระเครื่องราคาสูง และเงินฝากในธนาคารจำนวนมาก
2. แกะรอยเส้นทางเงิน: 240 ล้านบาทที่หายไป ข้อมูลจากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า พฤติการณ์ของอดีตเจ้าอาวาสและพวก เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินอย่างชัดเจน โดยมีรูปแบบการกระทำความผิด (Modus Operandi) คือการ “เบียดบังเงินวัด” เข้าบัญชีส่วนตัว และกระจายต่อไปยัง “นอมินี”
- มีรายงานการโอนเงินหมุนเวียนไปยังบุคคลใกล้ชิด 3 กลุ่มหลัก รวมถึง “สีกา” (น.ส.อรัญญาวรรณ) ซึ่งมีประวัติเชื่อมโยงกับเว็บไซต์พนันออนไลน์
- ยอดเงินหมุนเวียนในเครือข่ายนี้สูงถึง 240.4 ล้านบาท โดยมีการฟอกเงินผ่านการซื้อทรัพย์สินและการเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นการกระทำที่อุกอาจและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
3. หลักฐานทางกฎหมายและจุดจบของผู้ทรงศีล การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (4) เกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และมาตรา 3 (18) ความผิดเกี่ยวกับการพนัน การที่ ปปง. มีมติยึดทรัพย์ในครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่า “ผ้าเหลืองไม่สามารถคุ้มครองผู้กระทำผิดได้” ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติหมายจับจนนำไปสู่การจับกุมและการลาสิกขา (Disrobe) ของพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะภาค ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคดีประวัติศาสตร์ของวงการสงฆ์ไทย
กรณีของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง คือ “สัญญาณเตือน” ครั้งใหญ่ไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและวัดทั่วประเทศ ถึงความหละหลวมในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของวัด หากระบบการตรวจสอบยังคงปล่อยให้ “เจ้าอาวาส” มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือเงินบริจาค เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และผู้ที่บอบช้ำที่สุดไม่ใช่ใครอื่น แต่คือ “ศรัทธา” ของพุทธศาสนิกชนไทยนั่นเอง.

อ่่านข่าวอื่น ๆ :
- อนาคต “ธนาธร” กลับมาเมื่อไหร่? กับยุทธศาสตร์ “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” ในศึกเลือกตั้ง 69
- ผ่าขุมทรัพย์บาป! เบื้องลึก ปปง. ยึด 41 ล้าน ‘อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง’ ปิดฉากเส้นทางเงินสีเทาบนศรัทธาสาธุชน
- ผ่าวิกฤตผู้นำ “อนุทิน” ยุบสภาทิ้งทวน: 7 มหาวิกฤตที่ถูกทิ้งไว้กลางทาง กับคำถามถึงวุฒิภาวะ
- คอร์รัปชันไทยวิกฤต! CPI ต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดน ‘เวียดนาม-อินโดฯ’ แซง เจาะ 3 หน่วยงาน ‘โกงเยอะ’ ที่สุด
- เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้มผนึก คปภ. ส่งมอบผ้าห่มและถุงยังชีพ เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

