งบเกือบแสนล้าน กับบังเกอร์ยางรถยนต์ : ทำไม “กันต์ จอมพลัง” ต้องขอบริจาคความปลอดภัยให้ชายแดนเอง

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 “กันต์ จอมพลัง” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ประกาศรับบริจาค “ยางรถยนต์เก่า” จำนวนมาก เพื่อนำไปสร้างบังเกอร์หลบภัยให้พื้นที่ตามแนวชายแดน โพสต์ดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงการขอความช่วยเหลือ แต่คือ “ใบเสร็จ” ที่ตบหน้าการบริหารจัดการงบประมาณของกองทัพ และหน่วยงานของรัฐคำถามที่ดังอื้ออึงในโลกออนไลน์คือ “งบประมาณไปไหนหมด?”

งบประมาณมหาศาล สวนทางกับความเป็นจริงหน้างาน จากการตรวจสอบเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 พบว่ากระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณรวมกว่า 91,451,568,400 บาท โดยกองทัพบกเป็นหน่วยงานที่ได้รับส่วนแบ่งสูงสุด (อ้างอิง: พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568) แม้โฆษกกองทัพบกจะเคยชี้แจงว่ามีการจัดสรรงบสำหรับการป้องกันชายแดนไว้อย่างเพียงพอ แต่ในทางปฏิบัติ “งบประมาณ” กับ “สิ่งที่ถึงมือทหารชั้นผู้น้อย” และแนวความมั่นคงชายแดน กลับเป็นหนังคนละม้วน

ปัญหาหลักไม่ได้อยู่ที่ “ไม่มีเงิน” แต่อยู่ที่ “การกระจายงบประมาณ” (Budget Allocation) และ “ระเบียบราชการ” (Bureaucracy):

  1. งบผูกพัน vs งบดำเนินการ: งบส่วนใหญ่หมดไปกับเงินเดือนบุคลากรและงบผูกพันจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ (High-end technology) ซึ่งมีกระบวนการจัดซื้อยาวนาน
  2. ความล่าช้าของการเบิกจ่าย: การของบประมาณเพื่อวัสดุสนาม (เช่น กระสอบทราย, วัสดุทำบังเกอร์) มักถูกจัดอยู่ในหมวดวัสดุสิ้นเปลืองที่มีขั้นตอนการเบิกจ่ายซับซ้อน ทำให้หน่วยหน้าด่านเลือกที่จะ “รอไม่ได้” และต้องพึ่งพาการบริจาค

ทำไมต้องเป็น “ยางรถยนต์เก่า”? ในทางยุทธวิธี ยางรถยนต์เก่าอัดดินหรือทราย เป็นวัสดุที่ราคาถูกและกันกระสุนได้ดีระดับหนึ่งสำหรับอาวุธปืนเล็ก แต่การที่ทหาร หรือประชาชน ต้องใช้ “ยางเก่า” มาเป็นเกราะกำบังชีวิต สะท้อนถึงความล้มเหลวในการจัดหาวัสดุมาตรฐาน (Standard Protective Gear) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 52 รัฐมีหน้าที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย… และต้องจัดให้มีกำลังทหาร… แต่การจัดให้มีกำลังทหารนั้น ย่อมหมายรวมถึงการดูแลความปลอดภัยของตัวทหารด้วย หากรัฐปล่อยให้ทหารต้องพึ่งพาเอกชนในการหาอุปกรณ์ป้องกันชีวิต อาจเข้าข่ายการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้

ปรากฏการณ์ “รัฐพึ่งไม่ได้ เอกชนต้องทำแทน” การที่ “กันต์ จอมพลัง” ต้องออกมาเคลื่อนไหว เป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ของ “Failed Logistics” ในระบบกองทัพและรัฐบาลกลาง เมื่อภาคประชาสังคมต้องเข้ามาอุดรอยรั่วของงบประมาณแผ่นดิน สิ่งนี้สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กรทหารและรัฐบาลอย่างรุนแรง ประชาชนไม่ได้ต้องการเห็นฮีโร่ที่ต้องมาขอยางรถยนต์ แต่ต้องการเห็นระบบที่ทำงานได้จริง

บทสรุป เหตุการณ์วันที่ 19 พ.ย. 2568 ไม่ใช่แค่เรื่องการบริจาคของ แต่คือสัญญาณเตือนภัยระดับวิกฤตถึง “ความเหลื่อมล้ำในกองทัพ” หากผู้บังคับบัญชาระดับสูงยังนั่งอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ในขณะที่ทหารผู้น้อยต้องรอยางรถยนต์เก่าจากประชาชนเพื่อรักษาชีวิต คำว่า “เพื่อชาติ” อาจจะเหลือเพียงแค่วาทกรรมที่ว่างเปล่า ถึงเวลาแล้วที่ สตง. และ กมธ.ทหาร ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินนี้อย่างจริงจัง.

แหล่งข้อมูลอ้างอิงสำหรับการวิเคราะห์:

  • พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (หมวดความมั่นคง)
  • ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ (อุปสรรคการเบิกจ่าย)
  • สถิติการจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์เทียบกับงบสวัสดิการกำลังพล

อ่านข่าวอื่น ๆ :

สั่งสินค้าได้ที่นี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *