
เมื่อกระแส AI ร้อนแรงและแข่งขันดุเดือด บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google ก็เดินเกมรุกหนักขึ้นในการแย่งชิง “คนเก่ง” ด้วยสิ่งเดียวที่ซื้อใจได้ทันที—ค่าตอบแทนระดับมหาศาล
รายงานล่าสุดจาก Business Insider ระบุว่า Google พร้อมจ่ายเงินเดือนให้ “วิศวกรซอฟต์แวร์” สูงสุดถึง 340,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 12.4 ล้านบาท ไม่รวมโบนัสและหุ้นบริษัท) โดยอ้างอิงจากเอกสารการยื่นขอวีซ่าทำงานของแรงงานต่างชาติที่ Google ส่งให้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
แต่แม้จะจ่ายสูงขนาดนี้ พนักงาน Google หลายคนยังคงรู้สึกว่า “ค่าตอบแทนไม่สะท้อนแรงกดดันที่ต้องแบกรับ” เอกสารภายในเมื่อปี 2023 สะท้อนเสียงจากพนักงานที่มองว่าระบบค่าตอบแทนยัง “ต่ำกว่าที่ควร” เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ และระบบประเมินที่เข้มงวด
เงินเดือนสูง = แรงกดดันยิ่งสูง
การเป็นพนักงานเทคยักษ์ไม่ใช่แค่เก่ง แต่ต้อง “แข่งเก่งให้ตลอดเวลา”
Google และบริษัทร่วมอุตสาหกรรมอย่าง Meta และ Microsoft ต่างก็ปรับระบบประเมินพนักงานใหม่ โดยเฉพาะ Google ที่เพิ่งเปลี่ยนเกณฑ์การประเมินในเดือนเมษายน 2025 โดยให้ “ผลงานระดับสูง” เป็นเงื่อนไขหลักในการเลื่อนตำแหน่งและได้โบนัส
ใครทำผลงานไม่ถึง – ถูกปลดออกได้ง่าย ๆ
ใครอยากได้เงินเดือนสูง – ต้องอยู่ในโหมดพิสูจน์ตัวเองแบบไร้วันพัก
ระบบ Performance Review เข้มข้น และการแข่งขันภายในทำให้แรงงานต้องกลายเป็น “เครื่องจักรที่ต้องเก่งที่สุดตลอดเวลา”
แรงงาน = ทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์
Google ยังเคยบังคับใช้ ข้อตกลงไม่แข่งขัน (non-compete agreement) กับพนักงานหน่วย DeepMind ที่อังกฤษ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคลากรด้าน AI ย้ายไปบริษัทคู่แข่ง ยิ่งตอกย้ำว่าในสงครามเทคโนโลยี คนเก่งไม่ใช่แค่ลูกจ้าง แต่คือ ทรัพยากรล้ำค่า ที่ต้องแย่งชิงและควบคุมไว้ให้ได้
รายได้ต่อปีของตำแหน่งหลักใน Google (โดยประมาณ)
สายวิศวกรรม
วิศวกรซอฟต์แวร์: 4.0 – 12.5 ล้านบาท
วิศวกรอาวุโส: 6.9 – 9.4 ล้านบาท
วิศวกรวิจัย: 5.6 – 9.8 ล้านบาท
วิศวกรความปลอดภัย: 3.6 – 8.6 ล้านบาท
วิศวกรออกแบบชิป: 5.4 – 9.3 ล้านบาท
สายข้อมูลและ AI
นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล: 4.9 – 9.6 ล้านบาท
นักวิจัย AI: 5.7 – 11.2 ล้านบาท
สายบริหารจัดการ
ผู้จัดการผลิตภัณฑ์: 5.0 – 10.3 ล้านบาท
ผู้จัดการโครงการเทคนิค: 4.2 – 10 ล้านบาท
สายที่ปรึกษาและออกแบบ
ที่ปรึกษาด้านโซลูชัน: 3.7 – 10.4 ล้านบาท
นักออกแบบ UX: 4.6 – 8.5 ล้านบาท
โลกที่ต้องชนะเสมอ = โลกที่ไม่ปลอดภัย
แม้รายได้จะสูงลิบ แต่ “ความมั่นคงของงาน” กลับลดลงอย่างน่ากังวล การเลิกจ้างครั้งใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้ในพริบตา หากพนักงานไม่เข้าเกณฑ์
คนที่ได้มากที่สุด ก็อาจกลายเป็นคนที่เสี่ยงที่สุดในระบบเดียวกัน
สุดท้าย “เงินเดือน” จึงเป็นได้ทั้ง รางวัล และ สายโซ่ ที่พันธนาการให้ต้อง “ไม่หยุดเก่ง” — เพราะในยุคของ AI ใครหยุดนิ่ง ก็คือคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
Google ยังไม่ให้ความเห็นใดๆ ต่อข้อมูลเหล่านี้ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ บริษัทกำลังเดินหมากใหม่เพื่อรักษาคนเก่ง และกดดันคนที่ตามไม่ทัน