ความเสี่ยง หาก กกท.เปลี่ยนกลยุทธ์มวยไทยในต่างแดน โดยการ “อบรมครูมวย” แทนสอนนักเรียน

จากกรณีที่ นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ให้สัมภาษณ์ที่อเมริกา ถึงแนวทางการเปลี่ยนกลยุทธ์การส่งเสริมมวยไทยในต่างแดน จากสอนนักเรียนทั่วไป เป็น “อบรมครูมวย” 

การเปลี่ยนกลยุทธ์จากสอนนักเรียนไปเน้น "อบรมครูมวย" ในต่างประเทศเป็นแนวคิดที่น่าสนใจมาก แต่ก็มีทั้งประโยชน์และความเสี่ยงที่ไทยต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน TopicThailand จะวิเคราะห์อย่างละเอียดให้ฟัง

1. ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย การเน้นอบรมครูมวยในต่างประเทศ มีประโยชน์ในระยะยาว และช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมมวยไทยได้หลายด้าน

  • ยกระดับมาตรฐานมวยไทยทั่วโลก : เมื่อมีครูมวยที่ผ่านการอบรมและได้รับใบอนุญาต (ไลเซนส์) จากสถาบันของไทยโดยตรง จะทำให้มาตรฐานการสอนมวยไทยในต่างประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันและถูกต้องตามหลักที่ควรจะเป็น ไม่ใช่แค่การลอกเลียนแบบ ทำให้มวยไทยมีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพมากขึ้น
  • สร้างรายได้ระยะยาวและยั่งยืน :
    • ค่าอบรมและสอบใบอนุญาต: ไทยจะได้รับรายได้จากค่าลงทะเบียนอบรมและค่าสอบไลเซนส์
    • รายได้จากการต่ออายุไลเซนส์: กลยุทธ์ที่ระบุว่าการต่ออายุต้องทำที่ประเทศไทยจะช่วยดึงดูดครูมวยเหล่านี้ให้เดินทางเข้ามาในไทยอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยว ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • ขยายฐานความนิยมอย่างมีคุณภาพ: ครูมวยเหล่านี้จะเป็น “ทูตมวยไทย” ที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะพวกเขาจะถ่ายทอดศิลปะมวยไทยที่ถูกต้องและเป็นต้นฉบับให้กับนักเรียนของตัวเองในต่างประเทศ ทำให้มวยไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นอย่างมีคุณภาพ
  • สร้างระบบนิเวศน์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง: เมื่อมีครูและยิมมวยที่ได้มาตรฐานเพิ่มขึ้น ก็จะเกิดความต้องการอุปกรณ์มวยไทย (นวม, เป้า, กางเกงมวย), การจัดการแข่งขัน, และการจัดคอร์สฝึกสอนเฉพาะทางตามมา ซึ่งจะเป็นการส่งออกสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับมวยไทยได้มากขึ้น

2. ความเสี่ยงและข้อควรระวังที่อาจเกิดขึ้น แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่การเปลี่ยนกลยุทธ์นี้ก็มีความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ

  • การสูญเสียโอกาสในการดึงนักเรียนหน้าใหม่ : การเน้นไปที่ครูมวยอาจทำให้การจัดกิจกรรมแบบ Master Class สำหรับนักเรียนทั่วไปลดน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนนักเรียนหน้าใหม่ที่สนใจมวยไทยลดลงไปด้วยในระยะสั้น
  • การถ่ายทอดองค์ความรู้จนหมดสิ้น : หากไทยถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการสอนมวยไทยไปจนหมดสิ้น และครูมวยต่างชาติสามารถผลิตครูมวยรุ่นต่อไปได้เองในประเทศของตนเอง ก็อาจทำให้ความจำเป็นที่ต้องเดินทางกลับมาเรียนหรือสอบในไทยลดลงในอนาคต
  • ปัญหาคุณภาพการอบรมและไลเซนส์ปลอม : หากการจัดการอบรมและการสอบไม่ได้มาตรฐาน หรือมีการปล่อยให้มีไลเซนส์ปลอมเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของใบอนุญาตและภาพลักษณ์ของมวยไทยโดยรวม
  • การแข่งขันกับยิมในประเทศ : ครูมวยที่ผ่านการอบรมและได้รับไลเซนส์จากไทยอาจกลายเป็นคู่แข่งกับค่ายมวยไทยในต่างประเทศที่ไม่ได้รับการรับรองหรือไม่สามารถเข้าถึงการอบรมได้
  • ความไม่ยืดหยุ่นในการปรับตัว : หากโลกเปลี่ยนไปและมีเทรนด์การออกกำลังกายใหม่ๆ เกิดขึ้น การที่ไทยเน้นแต่การอบรมครูมวยอย่างเดียวอาจทำให้ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับตลาดได้ทันท่วงที

สรุปและข้อเสนอแนะ

กลยุทธ์ “อบรมครูมวย” เป็นแนวคิดที่ฉลาดและมีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและขยายอิทธิพลของมวยไทยไปทั่วโลกได้อย่างมีคุณภาพ แต่ควรทำควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรม Master Class สำหรับนักเรียนทั่วไปด้วย เพื่อไม่ให้เสียฐานแฟนคลับหน้าใหม่ที่อาจสนใจเข้ามาเป็นนักเรียนมวยไทย

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม :

  • สร้างระบบตรวจสอบที่เข้มงวด : ต้องมีระบบการตรวจสอบใบอนุญาตครูมวยที่โปร่งใสและเชื่อถือได้ เพื่อป้องกันไลเซนส์ปลอม
  • พัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง : หลักสูตรการอบรมไม่ควรหยุดนิ่ง แต่ควรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครูมวยต้องกลับมาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ประเทศไทยเสมอ
  • สร้างแบรนด์ไลเซนส์ให้แข็งแกร่ง : ทำให้ใบอนุญาตครูมวยไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลเหมือนกับใบอนุญาตผู้ฝึกสอนกีฬาอื่นๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจ
  • โปรโมทควบคู่กัน : ในขณะที่โปรโมทการอบรมครูมวย ก็ควรโปรโมทให้ชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวและฝึกมวยไทยที่ไทยด้วย เพื่อสร้างรายได้ในทุกมิติ

การบาลานซ์ระหว่างการสร้างฐานลูกค้าใหม่ (นักเรียน) และการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง (ครูมวย) จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จและสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยได้อย่างสูงสุดครับ.

อ่านข่าวอื่น ๆ :

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *