Day: July 26, 2025

จะเกิดอะไรขึ้น? หาก ไม่มีแรงงาน “กัมพูชา” ในประเทศไทยเลย
หาก ไม่มีแรงงานกัมพูชาในประเทศไทยเลย จะส่งผลกระทบอย่างมากในหลายมิติ โดยเฉพาะด้าน เศรษฐกิจ, สังคม, และ ธุรกิจ ต่อไปนี้คือการวิเคราะห์แยกตามด้านต่าง ๆ : 1.ผลกระทบทางเศรษฐกิจ 2.ผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทย 3.ผลกระทบทางสังคม สรุปภาพรวม : ด้านผลกระทบสำคัญ อ่านข่าวอื่น ๆ :
อ่านต่อ
ได้เวลาเหล็กบิน! F-16 ผนึกกริพเพน ทะลวง “ภูมะเขือ-เขาพระวิหาร-ตาเมือนธม ” ตัดเกมยิงไกลเขมร
วันนี้ (26 ก.ค.2568) สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงตึงเครียด ล่าสุด กองทัพอากาศไทยส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพนอีก 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ 2 จุด คือ “ภูมะเขือ–เขาพระวิหาร” และ “ปราสาทตาเมือนธม” ภารกิจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ สกัดการโจมตีด้วยอาวุธวิถีโค้ง จากฝั่งกัมพูชา หลังฝ่ายตรงข้ามมีการเคลื่อนไหวเตรียมใช้ปืนใหญ่ยิงใส่พื้นที่ไทย โดยเฉพาะในจุดที่มีกำลังพลไทยตั้งรับอยู่ บริเวณ “ปราสาทตาเมือนธม” ยังพบการตั้งฐานยิงและกำลังพลของกัมพูชาอย่างชัดเจน ซึ่งมีความพยายามยิงเข้ามาในเขตไทยแบบไร้ทิศทาง ผลการปฏิบัติการเป็นไปตามแผน เครื่องบินขับไล่ไทยสามารถทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ก่อนเดินทางกลับฐานอย่างปลอดภัย สำหรับพื้นที่ “ภูมะเขือ” นั้น ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทเขาพระวิหารราว 2.8 กิโลเมตร บนพื้นที่พิพาทราว 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งไทยและกัมพูชา ต่างอ้างสิทธิ์ครอบครองมาตั้งแต่ปี 2554 ฝ่ายไทยยึดแนว “สันปันน้ำ” ตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ของกรมแผนที่ทหาร ขณะที่กัมพูชายึดตามแผนที่ 1:200,000 ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฐานปฏิบัติการของทั้งสองประเทศตั้งประจันหน้ากันอย่างใกล. อ่านข่าวอื่น ๆ :
อ่านต่อ
“กองทัพภาค 2” แถลง เขมรยิงขีปนาวุธไกล 130 กม. หวังถล่มฐานทัพไทย – กองทัพยัน มีระบบสกัดพร้อมตอบโต้
วันนี้ (26 ก.ค. 2568) กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยข้อมูล ระยะยิงของขีปนาวุธ PHL-03 ซึ่งอยู่ในความครอบครองของกัมพูชา โดยสามารถยิงได้ไกลถึง 130 กิโลเมตร พร้อมเผย แผนที่ 4 จังหวัดแนวชายแดน เพื่อให้ประชาชนประเมินความเสี่ยงและเตรียมหาที่หลบภัยหากสถานการณ์บานปลาย PHL-03 เป็นระบบยิงจรวดหลายลำกล้องพิสัยไกล มีอานุภาพทำลายสูงต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และที่ตั้งกำลังทหาร ซึ่งทางกองทัพไทยยืนยันว่า ได้เตรียมแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง พร้อมระบบต่อต้านจรวดรับมือไว้แล้ว แม้จะมีการเตรียมการรับมือ แต่เพื่อความปลอดภัยของประชาชน กองทัพแนะนำให้ ไม่ประมาท โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้ 1. ติดตามข่าวสารและคำเตือนจากทางราชการอย่างใกล้ชิด2. หากอยู่ใกล้จุดยุทธศาสตร์หรือพื้นที่เสี่ยง ควรหาที่หลบภัยที่ปลอดภัยไว้ล่วงหน้า3. หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อาจเป็นเป้าหมายโจมตี4. หากมีคำสั่งอพยพหรือประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า แม้จะมีอาวุธรับมือพร้อม แต่ความไม่ประมาทคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่อย่าชะล่าใจ
อ่านต่อ
จะอพยพอีกหรือไม่? “เท้ง ณัฐพงษ์” ลงพื้นที่สุรินทร์ ชี้ศูนย์พักพิงยังต้องการความช่วยเหลือด่วน!
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย รังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชนลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิง จ.สุรินทร์ เตือนรัฐบาลอย่าละเลยสถานการณ์ชายแดนยังตึงเครียด อาจต้องเตรียมแผนอพยพรอบใหม่ หากการปะทะไม่ยุติ วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และนายรังสิมันต์ โรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวในอำเภอเมือง และอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า หากสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชายังไม่คลี่คลาย อาจต้องมีการอพยพประชาชนระลอกใหม่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ลี้ภัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ทั้งสองได้สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ พบว่ายังมีปัญหาขาดแคลนของใช้จำเป็นหลายรายการ เช่น ยากันยุง เสื้อผ้า รวมถึงห้องน้ำที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ขณะที่ประชาชนยังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากภาครัฐและภาคเอกชนนอกพื้นที่ นายณัฐพงษ์ ยังระบุอีกว่า ศูนย์พักพิงในอำเภอปราสาทอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงจากระยะยิงของอาวุธหนัก หากไม่มีสัญญาณดีขึ้นในเร็ววัน รัฐบาลควรเร่งจัดการแผนรองรับการย้ายประชาชนเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยในเขตเมือง พร้อมเรียกร้องให้รัฐจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรสนับสนุนศูนย์พักพิงอย่างเร่งด่วน “เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลัง แต่พวกเขาต้องการแรงสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้ดีที่สุด” ณัฐพงษ์ กล่าว พร้อมทั้ง เรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ ด้วยการแบ่งปันและระดมสิ่งของที่ยังขาดแคลน
อ่านต่อ
ชวนคนไทย เลือกซื้อสินค้าเกษตรพรีเมียม ในงานThailand Agri Intertrade 2025 24-27 ก.ค. ที่ตลาด อ.ต.ก.
กรุงเทพฯ – 24 กรกฎาคม 2568 องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เดินหน้าสานต่อ Thailand Agri Intertrade 2025 (ไทยแลนด์ อากรี อินเตอร์เทรด 2025) งานนิทรรศการสินค้าเกษตรมูลค่าสูงภายใต้โครงการส่งเสริมสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลก ขนทัพสินค้าเกษตรไทยจากทั่วประเทศกว่า 40 บูธ มาจัดแสดงและจัดจำหน่าย พร้อมสนุกกับกิจกรรมมากมาย อาทิกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ทุเรียน ช้อปผลไม้ราคาพิเศษในช่วงนาทีทอง การแข่งขันปอกผลไม้ กายกรรมคอมมาดี้ การแสดงมายากล และเพลิดเพลินกับความบันเทิงกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ก้านตอง ทุ่งเงิน กุ้งสุทธิราช ตรีชัยณรงค์ และหมูแฮม นางสาวไทย 2568 อิ่มอกอิ่มใจตลอด 4 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 24-27 กรกฎาคม นี้ ที่ตลาด อ.ต.ก. ถ. กำแพงเพชร กรุงเทพฯ หลังจากสร้างกระแสตอบรับอย่างดีในตลาดต่างประเทศ จากการจัดแสดงสินค้าและโรดโชว์ Thailand Agri Intertrade 2025 ใน […]
อ่านต่อ
กรมบัญชีกลางไฟเขียววงเงินเพิ่ม 4 จังหวัดชายแดน พร้อมขยายงบภัยน้ำท่วม 6 จังหวัดเหนือ
กรมบัญชีกลางอนุมัติขยายวงเงินทดรองจ่ายให้ผู้ว่าฯ 4 จังหวัดชายแดนเพิ่มอีกจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้อพยพและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันยังขยายวงเงินช่วยเหลือ 6 จังหวัดภาคเหนือที่ประสบภัยน้ำท่วมจากเดิม 20 ล้านเป็น 50 ล้านบาท พร้อมเร่งเบิกจ่ายภายใน 3 เดือน กรมบัญชีกลางอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เพิ่มจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อเร่งใช้ช่วยเหลือผู้อพยพและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังแจ้งความคืบหน้าว่า การขยายวงเงินในครั้งนี้เป็นไปตามคำขอของกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบริหารจัดการงบประมาณช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีในพื้นที่ที่ประกาศเขตภัยพิบัติ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้อพยพและผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังได้มีการขยายวงเงินให้พื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม 6 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ และลำปาง ขยายวงเงินจาก 20 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท เบื้องต้นให้เร่งเบิกจ่ายภายใน 3 เดือน แต่อาจมีการขยายเวลาเพิ่มเติมได้หากเหตุการณ์ยังไม่คลี่คลาย
อ่านต่อ