18–20 สิงหาคม 2568 – ชายแดนไทย–กัมพูชา กองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมข่าวทหาร นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวม 14 นาย ลงพื้นที่ชายแดนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและกฎหมายมนุษยธรรม
คณะนำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพื้นที่ เริ่มจาก ห้องประชุมศรีจันทราพันธุ์ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี รับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับการละเมิดหยุดยิงของกัมพูชาและการขัดขวางปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ
คณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่สำคัญตลอดแนวชายแดน ได้แก่
1. ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี – ตรวจสอบกรณีการรุกเข้าตัดลวดหนามของกัมพูชา
2. ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ – จุดยุทธศาสตร์มองเห็นพื้นที่พิพาท เช่น พระวิหาร–ช่องตาเฒ่า–สัตตาโสม
3. ฐานกฤษณา (ภูมะเขือ) – ตรวจสอบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ที่เพิ่งวางใหม่ จนทหารไทยได้รับบาดเจ็บ
4. ฐานปราบศึก – ชมหลักฐานทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ตรวจยึดจากฝ่ายกัมพูชา
5. สถานที่ควบคุมเชลยศึก – ยืนยันการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมสากลและอนุสัญญาเจนีวา
6. โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ – ตรวจสอบผลกระทบจากการโจมตีด้วยจรวด BM-21 ต่อพลเรือนและสถานพยาบาล
7. ช่องจุ๊ปตะโมก – ตรวจสอบเหตุทหารพรานไทยเหยียบกับระเบิดหลังหยุดยิง
การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้รับ ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงไปตรงมา อีกทั้งสะท้อนพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนและประชาชนผู้บริสุทธิ์
กองทัพไทยยืนยันว่า ประเทศไทยยังคง รักษาข้อตกลงหยุดยิง ปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมสากล และแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี แต่จะไม่ยอมให้มีการละเมิดบูรณภาพดินแดนและความปลอดภัยของประชาชนโดยเด็ดขาด