Site icon

สูตรลับโค้ช “อี นา ยอน” ทำเทควันโดจูเนียร์ของไทย คว้าเหรียญได้เกินเป้า

การแข่งขันเทควันโดยุวชนและเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รายการ “เอเชียน จูเนียร์-คาเดต เทควันโด แชมเปี้ยนชิพส์ 2025” ที่เมืองกูชิง ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันประเภทพุมเซ่ (ท่ารำ) รุ่นยุวชน (คาเดต) โดยทีมชาติไทย ส่งเข้าแข่งขัน 9 รุ่น คว้ามาทั้งหมด 3 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง โดยนักกีฬาทั้ง 12 คนมีเหรียญติดมือกลับบ้านครบทุกคน

โดยเหรียญทอง ทีมชาติไทย ทำได้จาก ประเภทพุมเซ่คู่ผสม “น้องภูผา” ปุณณวิช หงษ์ยี่สิบเอ็ด จับคู่กับ “พรีม” สุกฤตา ปัญญาไตรรัตน์ ได้เริ่มที่รอบรองชนะเลิศ เอาชนะ  ซัลน์ซายา เอนค์มาดัค – เตลเมน อูกานบายาร์ จากมองโกเลีย 8.299-7.932 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ดวล ซวน จื้อ เสวี่ย – ยี่ ติง  ฉู จากไต้หวัน ก่อนที่ ภูผา กับ พรีม จะผสานทักษะร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง เอาชนะ 8.599-8.482 คว้าเหรียญทองไปครอง

ต่อด้วย ประเภทฟรีสไตล์พุมเซ่ชายเดี่ยว แข่งแบบพบกันหมด โดย “โยโย่” อัครปวีณ จำปา โชว์ทักษะได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกคะแนน 7.64 คว้าเหรียญทองไปครอง เช่นเดียวกับ ประเภทฟรีสไตล์พุมเซ่เดี่ยวหญิง “ใบหม่อน” ณัฐนรี คำสอาด ที่ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน ทำคะแนน 8.2 คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ

ส่วนหรียญเงินทำได้จาก ประเภทพุมเซ่ทีมหญิง ประกอบด้วย กานต์ธีรา รอดเมือง, สุกฤตา ปัญญาไตรรัตน์, ภริทภร ณ บางช้าง รอบแรก ชนะ เวียดนาม 8.333-8.066 จากนั้นรอบรองชนะเลิศ ชนะ ฟิลิปปินส์ 8.799-8.633 ก่อนที่รอบชิงชนะเลิศจะพ่าย ไต้หวัน เฉียดฉิว 8.882-8.982 คะแนน

อีกเหรียญเงิน ประเภทพุมเซ่ทีมชาย ประกอบด้วย ปุณณวิช หงษ์ยี่สิบเอ็ด, กันต์ วาทนิยะกุล, ประวัติ ภู่ฤทธิ์ รอบแรกชนะ ซาอุดีอาระเบีย 7.732-7.215 จากนั้นรอบรองชนะเลิศ ชนะ เวียดนาม 8.466-8.282 ก่อนที่รอบชิงชนะเลิศจะพ่าย ฟิลิปปินส์ 8.682-8.816 คว้าเหรียญเงิน

ขณะที่ประเภทฟรีสไตล์ทีมผสม พีรศักดิ์ แสนสนิท, เตชิต เชื้อสายวิบูลย์, มนันย์ ทองบ้านบ่อ, อชิรดา โตชูวงศ์, ณัฐนรี คำสอาด ช่วยกันแสดงท่าท่างได้อย่างพร้อมเพรียงและแข็งแกร่ง ทำคะแนน 8.04 เป็นอันดับ 2 คว้าเหรียญเงินไปครอง ส่วนเหรียญทอง เวียดนาม 8.06 คะแนน 

ส่วนเหรียญทองแดง ได้จาก ประเภทพุมเซ่เดี่ยวหญิง กานต์ธีรา รอดเมือง ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ พ่าย ไช่ หย่า ชิน จากไต้หวัน 8.249-8.166 คว้าเหรียญทองแดง, ประเภทฟรีสไตล์พุมเซ่คู่ผสม เตชิต เชื้อสายวิบูลย์ กับ มนันย์ ทองบ้านบ่อ โชว์ลีลา เป็นอันดับ 3 ทำได้ 7.26 คะแนน คว้าเหรียญทองแดง 

ด้านผลที่เหลือ ประเภทพุมเซ่ชายเดี่ยว กันต์ วาทนิยะ รอบแรกพ่าย เฮา ตวง ฟาน จากเวียดนาม 8.149-8.199 ตกรอบ

นอกจาก 3 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง ที่ทำได้แล้ว ทัพนักกีฬาเทควันโดพุมเซ่ยุวชนไทย ยังคว้ารางวัลเหรียญรวม เป็นอันดับ 1 ของเอเชีย รวมถึงรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ซึ่งมอบให้กับ “ออมสิน” อรนวีย์ ศรีสหกิจ อดีตนักเทควันโดพุมเซ่ดีกรีแชมป์โลก ซึ่งผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอน รายการนี้รายการแรก

หลังแข่งขัน “อี นา ยอน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย” เผยว่า จริง ๆ คิดว่าวันนี้คาดว่าจะได้สัก 2 เหรียญทอง แต่ไม่คิดว่าจะได้ถึง 3 เหรียญทอง ซึ่งนักกีฬาของเราทุกคนก็ทำได้ดีด้วย ทำให้เราได้รางวัลเหรียญรวม เป็นอันดับ 1 ของเอเชีย ทั้งยังได้รับรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม เป็นผลงานที่เกินเป้ามาก ๆ

โดยก่อนมาที่นี่ มีการถามนักกีฬาแต่ละคนว่าชอบแบบไหน อยากให้มีการพูดคุยแบบไหน เพื่อช่วยกระตุ้นก่อนการแข่งขัน ซึ่งเด็ก ๆ ทุกคนก็เขียนเป็นลิสต์มาให้ เมื่อถึงเวลาแข่งขันก็จะมาดูว่านักกีฬาคนไหนต้องการอะไร แต่ละคนไม่เหมือนกัน เราพยายามหาวิธีที่ดีที่สุด ทำให้นักกีฬามั่นใจที่สุด ทุกคนจะได้ทำเต็มที่ในสนาม

“ก่อนหน้านี้ พอเห็นนักกีฬาแล้ว เราไม่สามารถคาดหวังผลงานได้เลย จากตอนเข้ามาเมื่อ 2 เดือนครึ่งที่แล้ว แต่ด้วยความตั้งใจของนักกีฬา และทีมโค้ช เช่น นักกีฬาส่วนใหญ่อาจจะซ้อมแค่เวลาซ้อม แต่นักกีฬาของเรา จะหาเวลาฝึกซ้อมด้วยตนเองเพิ่มเติม นั่นคือความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของทุกคนทำให้ประสบความสำเร็จในครั้งนี้” โค้ชอี นายอน กล่าว

อี นา ยอน : หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นเยาวชน

ด้าน  “ออมสิน” อรนวีย์ กล่าวว่า สำหรับทัวร์นาเมนต์แรก ไม่ได้คาดหวังจะได้รางวัลโค้ชยอดเยี่ยม ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณโค้ช อี นายอน สำหรับรางวัลนี้ถูกมอบให้กับประเทศไทย ซึ่ง โค้ชอี นายอน เลือกมอบให้กับออมสิน เพราะที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นทัวร์นาเมนต์แรก ทำให้เตรียมตัวค่อนข้างหนักมาก ไม่ว่าจะทำงานทั้งการดูแลนักกีฬา งานเอกสาร และการสอนนักกีฬา ค่อนข้างทุ่มสุดตัวมาก ๆ ในช่วง 4-5 เดือนที่ทำงานมา รู้สึกว่าสมควรได้รับมัน แต่ก็ถามโค้ชอี นายอน ว่าทำไมถึงเลือกมอบรางวัลนี้ให้ เราควรได้รับมันจริง ๆ ใช่มั้ย ซึ่งโค้ชอี นายอน ก็บอกว่าตั้งใจมอบให้ เพราะเห็นความตั้งใจของเราจริง ๆ ที่ดูแลนักกีฬา ซึ่งรางวัลนี้มีผลต่อจิตใจของออมสินอย่างมาก

“ตอนเป็นนักกีฬา ออมสิน จะสนใจแต่แค่ตัวของออมสินเอง โฟกัสกับการแข่งขันของตัวเอง แต่เป็นโค้ชเหมือนต้องโฟกัสกับการแข่งขันของนักกีฬาทุกคน ซึ่งตื่นเต้นมาก และเครียดไปหมด  คงอาจเพราะออมสินค่อนข้างใหม่กับการเป็นโค้ช แต่อนาคต มั่นใจว่าออมสินจะสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ ได้ดียิ่งขึ้น และสร้างผลงานให้ประเทศไทยต่อไป”

อ่านข่าวอื่น ๆ :

Exit mobile version