Site icon

รู้หรือไม่? ทำไมคนไทยต้องพูดว่า “สวัสดี” คำทักทายธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

หลายคนอาจเคยสงสัยว่า เหตุใดคนไทยจึงใช้คำว่า “สวัสดี” ในการทักทายกันในชีวิตประจำวัน ทั้งที่ในอดีต การทักทายกันในหมู่คนไทยมักใช้คำธรรมดาอย่าง “ไปไหนมา”, “กินข้าวหรือยัง” หรือ “อยู่ดีไหม” แล้วคำว่า “สวัสดี” มาจากไหน และเหตุใดจึงกลายเป็นคำทักทายหลักของชาติไทย?

คำว่า “สวัสดี” มีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า “สวสฺติ” (svasti) ซึ่งหมายถึง ความดี ความสุข ความเจริญ หรือความปลอดภัย การใช้คำนี้จึงเปรียบเสมือนการอวยพรให้ผู้ฟังประสบสิ่งดี ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นบทสนทนา

โดยคำว่า “สวัสดี” ถูกบัญญัติขึ้นอย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ 6 โดย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งต้องการให้มีคำทักทายแบบสุภาพ เป็นทางการ และเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย เช่นเดียวกับคำว่า “Hello” ในภาษาอังกฤษ หรือ “Bonjour” ในภาษาฝรั่งเศส

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้มีการ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้คำว่า “สวัสดี” อย่างกว้างขวาง ผ่านการสื่อสารจากภาครัฐและการศึกษา จนกลายเป็นคำที่ใช้กันทั่วไปทั้งในชีวิตประจำวันและในพิธีการทางการ

นอกจากนั้น การใช้คำว่า “สวัสดี” ยังมักมาคู่กับการไหว้ ซึ่งเป็น สัญลักษณ์ของความเคารพและความอ่อนน้อม อันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง

ดังนั้น การพูดคำว่า “สวัสดี” จึงไม่ใช่แค่การทักทายธรรมดา แต่ยังสะท้อนถึง ความมีไมตรีจิต วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ที่คนไทยควรรู้และภาคภูมิใจ.

Exit mobile version